รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
และเพื่อการรู้แจ้งฉับพลัน นั่นคือบางสิ่งที่คุณ ต้องพึ่งพาพระพรนับพัน ๆ กัลป์ ของคุณ เพื่อที่จะสามารถ ได้รับมันจากอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และทรงพลัง ปราศจากสิ่งนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นนักพรต มาเป็นเวลานาน ๆ และคุณไม่กินอะไรเลยด้วยซ้ำ มันก็ไม่มีประโยชน์มากนัก แน่นอน มันอาจสามารถ ชำระล้างกรรมของคุณได้บ้าง แต่กรรมทางกายภาพเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถพาคุณไปสู่การหลุดพ้น หรือประณามคุณได้ เพราะความรู้เชิงลึกทางจิตวิญญาณ นั้นแตกต่างจากความรู้ภายนอก […]
สวัสดี จิตวิญญาณที่รัก ดีใจที่ได้คุยกับคุณอีกครั้ง แม้ว่าเราจะสื่อสารกันภายใน อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วก็ตาม ฉันอยากจะคุยอะไรบางอย่างกับคุณ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันได้ยินมาว่า คุณบางคนอยากกินเพียงมื้อเดียว เพียงเพราะฉันบอกคุณว่า ฉันทานวันละครั้ง ได้โปรดอย่าลอกเลียนแบบ เพราะถ้าคุณยังทำงาน อยู่ในโลกที่วุ่นวาย ได้โปรดอย่ากดดันตัวเอง มากเกินไป ปกติแล้ว การทานอาหารวันละมื้อ คือสำหรับตอนที่คุณเข้าฌาน อยู่คนเดียว หรืออยู่กับเพื่อนที่ไว้ใจได้ มิฉะนั้น หากคุณยังคง ทำงานหนักมากทุกวัน แล้วกลับบ้าน คุณยังต้องดูแลคนของคุณ ครอบครัวของคุณ หรือสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย เพื่อน ๆ และญาติของคุณ – คุณก็ไม่ควรทำเช่นนั้น แน่นอนว่าคุณสามารถลองได้สักพัก เพื่อดูว่าคุณจะทำได้แค่ไหน แต่อย่าฝืนตัวเอง โดยคิดว่ามันจะทำให้คุณ เป็นพุทธะได้เร็ว มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะคุณจะกินมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับผลบุญของคุณ ในชาติที่แล้วหรือในชาตินี้ด้วยพระพุทธเจ้าที่เคารพผู้รู้แจ้ง พระองค์ไม่มีความเครียดมากนัก ในสมัยนั้น เพราะไม่มีมลพิษ ไม่ต้องกังวลกับ สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง… ฉันหมายถึง ไม่ใช่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นห่วงเรื่อง ความเป็น ความตาย เพียงแต่ว่าผู้รู้แจ้ง คนที่รู้แจ้งแล้ว ดูแลผู้อื่นอยู่เสมอ - เพื่อผู้อื่น - ไม่ใช่เพื่อตนเองทีนี้ แม้แต่ตอนที่พระพุทธองค์ ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์อนุญาตให้พระภิกษุของท่าน ดื่มน้ำผลไม้ในช่วงบ่าย เพราะในเวลานั้น พระพุทธองค์เอง และพระภิกษุ ฉันอาหารเพียงวันละครั้งเท่านั้น ประมาณเที่ยง และปกติแล้ว หลังเที่ยง พวกเขาจะไม่ฉันอาหาร พวกเขาดื่มน้ำ แน่นอน คุณสามารถทำได้เช่นกัน แต่พระพุทธเจ้าตรัสอย่างชัดเจนว่า พระองค์อนุญาตให้พระภิกษุ ของพระองค์ดื่มน้ำผลไม้ได้ - เช่น น้ำผักใบ น้ำผัก และน้ำผลไม้ทุกชนิด ฉันจะขอให้ทีมงาน พิมพ์ออกมาให้คุณ หรืออีกสักพัก ฉันอาจจะสามารถบอกคุณได้คำสอนของพระพุทธเจ้า อยู่ในมหาวรรค เพราะมีฤษีคนหนึ่งมาเข้าเฝ้า พระพุทธเจ้า เพื่อนิมนต์พระองค์ และพระภิกษุของพระองค์ ไปฉันอาหาร ขณะนั้น เป็นเวลาบ่ายไปแล้ว เพราะพระพุทธเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ ไม่ฉันอาหารใด ๆ หลังเที่ยงวัน ปกติแล้ว พวกท่านจะฉัน เฉพาะช่วงเที่ยงเท่านั้น ฤษีเกณิยะ จึงทำน้ำผลไม้ ถวายพระพุทธเจ้าและพระพุทธองค์ก็ตรัสว่า “โปรดถวายแด่พระภิกษุ ทั้งหลาย” แต่แล้วพระภิกษุทั้งหลาย ก็วิตกกังวลมาก เพราะยังไม่ถึงเวลาฉันอาหาร พวกเขาจึงปฏิเสธไป แล้วพระพุทธองค์ก็ตรัสว่า “โอ้ ไม่เป็นไร ท่านฉันมันได้" หลังจากนั้น ฤษีเกณิยะก็ถวาย น้ำผลไม้ที่ตนทำ ให้กับพระภิกษุทั้งหลาย จนทุกคนพึงพอใจ และไม่ปรารถนาอีกดังนั้น เพราะในโอกาสนี้ พระพุทธองค์ทรงรับสั่ง กับภิกษุทั้งหลายว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ท่าน ดื่มน้ำได้แปดอย่าง ได้แก่ น้ำมะม่วง และน้ำผลหว้า น้ำกล้วย และน้ำมะทราง และน้ำองุ่น และน้ำที่ทำจาก เหง้าบัวที่กินได้ น้ำผึ้ง และน้ำมะปราง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด ยกเว้นน้ำที่เตรียมจากข้าวโพด ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่ม น้ำจากใบไม้ทุกชนิด ยกเว้นเครื่องดื่ม ที่ปรุงจากพืชสมุนไพร” สมุนไพร ฉันคิดว่าที่คล้ายกับ เปปเปอร์มินต์หรือโรสแมรี่ พระพุทธองค์ตรัสต่อไปว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ท่านดื่มเครื่องดื่ม ที่ปรุงจากดอกไม้ทุกชนิด ยกเว้นน้ำชะเอมเทศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ ใช้น้ำอ้อยได้” ทั้งหมดนี้เป็นน้ำคั้น ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต ให้พระภิกษุดื่ม แม้จะเลยเที่ยงวันไปแล้วก็ตาม และแม้กระทั่งก่อนโอกาสนี้ พระภิกษุก็ได้รับอนุญาต ให้นำอาหารไปฉันเมื่อเดินทาง หรือในสถานการณ์คล้าย ๆ กัน เมื่อเวลาฉันอาหาร ไม่แน่นอนดังนั้น ถ้าคุณคิด จะทานอาหารมื้อเดียวจริง ๆ ก็ขอให้ทำตาม คำแนะนำ จากพระพุทธเจ้า ตามที่ฉันได้บอกคุณไปแล้ว มีน้ำผึ้งที่ได้รับอนุญาตด้วย แต่โดยปกติแล้ว ก่อนหน้านั้น พระพุทธเจ้าอนุญาต ให้ใช้น้ำผึ้งเป็นยา และเก็บไว้ได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้น ฉันไม่ดื่มน้ำผลไม้ใด ๆ ฉันไม่ค่อยดื่ม อาจจะสองสามครั้ง ในชีวิตฉันมันก็ดี มันโอเค คุณสามารถทานได้ ในช่วงบ่าย กรณีที่คุณต้องการทาน วันละมื้อตอนเที่ยง แต่จงระวัง คุณต้องมีสารอาหารเพียงพอ เพราะคุณยังทำงานอยู่ในโลกนี้ และได้รับอิทธิพล จากพลังงานของผู้คนที่หิวโหย และอยากอาหาร จากสภาพแวดล้อมของคุณ ทีนี้ ถ้าคุณคิดว่า ด้วยการเป็นผู้บำเพ็ญตบะ หรือการทานแค่วันละครั้ง คุณจะเป็นพระพุทธเจ้า มันไม่ใช่อย่างนั้นคุณต้องกิน ตามกรรมที่ถูกกำหนดไว้ของคุณ ในชาตินี้ด้วย ฉันเองก็ทำเช่นกัน ฉันก็เคยเป็นนักกินอากาศ สักระยะหนึ่ง และมันก็ได้ผล จนกระทั่งสวรรค์หยุดฉัน เนื่องจากมันไม่มีประโยชน์ สำหรับงานทางจิตวิญญาณของฉัน กล่าวคือ ผ่าน กรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารมากขึ้น พระพรจะมีมากขึ้น ต่อโลก! สำหรับร่างกายที่เล็ก ๆ ของฉัน มันทำได้เท่านี้ ทางกายภาพ! แต่ฉันบอกคุณ มันช่างเป็นอิสรภาพ ช่างเบา เหมือนลอยได้ ที่ฉันเศร้ามากที่ต้องหยุด!!! ฉันยังคงเศร้าเมื่อนึกถึงมันดังนั้น ได้โปรด อย่าฝืน ร่างกายของคุณให้ทำมัน แม้ว่าเจตจำนงจะแข็งแกร่ง และอะไรก็ตามที่คุณชอบ ก็ทำได้ แต่ถ้ากรรมของคุณไม่ได้ถูกกำหนด มาอย่างนั้นหรือคุณไม่มีการบำเพ็ญ จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก และความแข็งแกร่งทาง จิตวิญญาณภายใน ร่างกายของคุณ อาจไม่ไหว ดังนั้น ได้โปรด คุณลองได้สักพักเพื่อดูว่ามันเป็นยังไง ถ้ามันไม่ได้ผล คุณก็ต้องค่อย ๆ พยายามปรับ ไปสู่เมนูเดิม ตราบเท่าที่มันยังเป็นวีแกน ฉันไม่อยากทำให้พวกคุณ รู้สึกว่าการบำเพ็ญตบะ เป็นสิ่งจำเป็น ในการปฏิบัติของเรา ไม่ ๆ ๆ ๆ ได้โปรด ทำตัวเป็นปกติ ทำตัวเป็นปกติ มีความสุขกับอะไรก็ตามที่คุณจ่ายได้ และในชีวิตของคุณ มีหลายสิ่งที่คุณ หลีกเลี่ยงไปแล้ว และฉันรู้สึกขอบคุณมากสำหรับสิ่งนั้น ดังนั้นพยายามเดินสายกลางในทุกสิ่ง การบำเพ็ญตบะเอง ไม่ได้นำอะไรมาให้คุณมากนัก ฉันต้องบอกคุณอย่างตรงไปตรงมาประเด็นหลักคือคุณ ฝึกทำสมาธิที่ถูกต้อง และมีวิถีชีวิตที่ถูกต้อง คุณต้องได้รับการถ่ายทอด “วิถี” การทำสมาธิโดยอาจารย์ ผู้รู้แจ้งที่แท้จริง และมีความสามารถ ผู้มีพลังมหาศาล เพื่อที่ท่าน จะสามารถมอบมัน ให้กับใครก็ตามที่โชคดี ที่จะได้พบท่าน และขอความช่วยเหลือ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และในจักรวาล - นั่นคือการประทับจิตโดยพระกรุณา เพื่อการรู้แจ้ง คุณเห็นไหม เพราะว่า การรู้แจ้งทางจิตวิญญาณ เป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ของตัวตนที่แท้จริงของคุณ ไม่ใช่จากเสื้อผ้าชั้นนอก ซึ่งเป็นร่างกาย ที่บรรจุจิตวิญญาณของคุณ ทีนี้ สมมติว่าสายไฟ มันสวยมาก และได้รับการดูแลอย่างดี แต่ไม่มีการเชื่อมต่อ ไปยังแหล่งกำเนิดไฟฟ้า เมื่อนั้นแสงก็ไม่สว่างขึ้น และเครื่องมืออื่น ๆ ที่ต้องการไฟฟ้าจะไม่ทำงาน มันจะต้องมีการเชื่อมต่อ ด้วยพลังไฟฟ้าในทำนองเดียวกัน ถ้าเรา ดูแลร่างกายอย่างดีจริง ๆ แต่เราไม่มีการเชื่อมต่อ กับแหล่งที่มาที่แท้จริง ของพลังพระเจ้าภายใน ถ้าอย่างนั้นมันก็ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าสายไฟฟ้า จะต้องได้รับการดูแลอย่างดี เพื่อให้มีไฟฟ้า ผ่านเพื่อนำไปใช้อย่างอื่นได้ แต่ก็ไม่ได้โหลด สายไฟมากเกินไป คุณไม่จำเป็นต้องดูแลสายไฟ เป็นพิเศษ แต่คุณต้องรักษามันให้ดี อย่างเพียงพอ คุณไม่จำเป็นต้องตกแต่ง สายไฟของคุณด้วยดอกไม้ หรือผ้าไหม หรือกำมะหยี่ หรือ ผ้าสวย ๆ อื่นใด หรือทาสีต่าง ๆ หรือตกแต่งกล่องไฟ หรือปลั๊กไฟ – นั่นจะไม่มีความจำเป็น โอเคนะ? แค่นั้น ฉันหวังว่าฉันได้อธิบาย เพียงพอแล้ว เพราะว่า ยังไงคุณก็ฉลาดอยู่แล้วและเพื่อการรู้แจ้งฉับพลัน นั่นคือบางสิ่งที่คุณ ต้องพึ่งพาพระพรนับพัน ๆ กัลป์ ของคุณ เพื่อที่จะสามารถ ได้รับมันจากอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และทรงพลัง ปราศจากสิ่งนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นนักพรต มาเป็นเวลานาน ๆ และคุณไม่กินอะไรเลยด้วยซ้ำ มันก็ไม่มีประโยชน์มากนัก แน่นอน มันอาจสามารถ ชำระล้างกรรมของคุณได้บ้าง แต่กรรมทางกายภาพเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถพาคุณไปสู่การหลุดพ้น หรือประณามคุณได้ เพราะความรู้เชิงลึกทางจิตวิญญาณ นั้นแตกต่างจากความรู้ภายนอก ฉันต้องคิดว่า จะอธิบายมันอย่างไรดี ฉันยังต้องอธิบายหรือ??Photo Caption: งานที่ต่ำต้อยที่สุด ยังคงเป็นงานที่จำเป็น