รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ผู้คนที่ใส่ร้ายฉัน หรือนินทาฉัน เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นลบ เกี่ยวกับฉันและคำสอนของฉัน หรือประเทศที่กดขี่ฉัน และขัดขวางการสอนของฉัน ในรูปแบบใดก็ตาม ฉันไม่เคยทำอะไรผิด ต่อพวกเขาเลย ที่ฉันจำได้ในชีวิตนี้ ไม่เคยเลย ไม่แม้แต่คำที่ไม่ดี เกี่ยวกับพวกเขาสักคำ ดังนั้น คุณคงเห็นแล้วว่า คุณไม่จำเป็นต้อง ทำให้ใครขุ่นเคือง เพื่อให้พวกเขาคิดในแง่ลบต่อคุณ ฉันยังช่วยเหลือทุกที่ที่ฉันทำได้ เมื่อใดก็ตามที่ฉันทำได้ เพื่อประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ โดยช่วยเหลือ อวยพร และอธิษฐานให้พวกเขา ฉันไม่เคยทำอะไร เช่น เอาเปรียบความเมตตาของใคร หรือรับเงิน จากใครเลยแม้แต่น้อย ฉันไม่รู้จักพวกเขา เป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำดังนั้นหากคุณอยากเป็นอาจารย์ ต้องคิดใหม่อีกครั้ง คุณจะสามารถเป็นอาจารย์ได้หรือไม่ เป็นอีกคำถามหนึ่ง ฉันบอกคุณทุกอย่างแล้ว ก็เพียงพอให้คุณเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องตลก มันไม่ใช่ประกาศนียบัตร ที่คุณสามารถติดสินบน ศาสตราจารย์หรือคณบดี เพื่อให้รับประกาศนียบัตรนั้นได้ พระพุทธเจ้า ทั้งจักรวาล ต่างทราบดีว่า พระพุทธเจ้าคือใคร และพวกท่านมักจะมา สักการะพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาส เหมือนเมื่อครั้งที่ พระศากยมุนีพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ พวกท่าน ก็จะมาสักการะบูชาอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับ อาจารย์ในปัจจุบัน หากมีอาจารย์องค์ใดอยู่บนโลกนี้ พระพุทธะ นักบุญ และปราชญ์ทั้งหลาย สวรรค์ เทวดา หรือแม้แต่อดีตปีศาจ พระราชา ต่างมาเคารพบูชา พระองค์อยู่เสมอ หากคุณเห็นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ถ้าคุณรับสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมดและถ้าหากพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ บอกคุณว่าคุณเป็นพุทธะ และให้ความเคารพคุณ ดังนั้น คุณก็คือพุทธะ ไม่เช่นนั้น ได้โปรด เพียงแค่มีความสงบสุข ขอบคุณพระเจ้า ที่คุณมีวิถีแห่งการรู้แจ้งที่ดี ให้บำเพ็ญ ขอบคุณพระเจ้า ที่คุณมีคำสอนของอาจารย์ ที่บอกให้คุณทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือเก้าชั่วรุ่น ของคุณ และตัวคุณเอง นั่นก็ดีพอแล้วฉะนั้นโปรดอย่าฝัน ที่จะเป็นอาจารย์เลย ฉันขอร้องละ มันไม่ง่ายเลย! มันไม่ใช่แบบที่เห็น คุณไม่เห็นเบื้องหลังว่า ฉันต้องร้องไห้อย่างไร ฉันต้องทนทุกข์เพียงใด การเป็นอาจารย์ ไม่ต้องพูดถึงพระศรีอริยเมตไตรย ในฐานะอาจารย์ หรืออาจารย์ที่สูงกว่า การเป็นอาจารย์ที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น คุณจำเป็นต้องบำเพ็ญ เป็นเวลานานหลายกัลป์มากมาย ๆ ตลอดกาล เพื่อผ่านการฝึกฝน ความยากลำบากต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถต้านทาน การโจมตีของโลกนี้ และพลังงาน ชั่วร้ายได้ และเพื่อควบคุม พลังงานมายาด้วยเช่นกัน และภัยพิบัติทุกประเภท จะเข้ามาในชีวิตส่วนตัวของคุณ หรือคุณอาจตาย อย่างโหดร้ายได้ทุกเมื่อ ดังนั้น คุณจึงสะสมความคู่ควร ที่จะได้รับพลังมหาศาล ในการช่วยเหลือผู้อื่น และยังช่วย รักษาสมดุลให้กับชีวิตของคุณเอง มิฉะนั้น คุณก็จะอยู่ได้ไม่นาน หากคุณไม่ได้เตรียมตัว หากคุณไม่ได้เรียนรู้ จากโลกนี้อย่างดี คุณจะอยู่ได้ไม่นานและทีนี้ ถึงแม้คุณจะเป็นอาจารย์ ที่ได้รับการแต่งตั้งและรับพลังแล้ว คุณยังคงต้องรู้ว่าความทุกข์ทรมาน อยู่ในทุก ๆ ก้าวที่คุณเดิน นอกจากนี้ คุณยังต้องไปยัง มิติต่าง ๆ มากมาย ดาวเคราะห์ต่าง ๆ มากมาย ดวงดาว พระจันทร์ พระอาทิตย์ และโลกต่างๆ มากมาย เพื่อช่วยเหลือ จิตวิญญาณที่หลงทาง และ/หรือ ถูกจองจำอยู่ที่นั่น โดยกรรมของพวกเขา และแน่นอนว่า รวมไปถึงนรกด้วย นอกจากนี้ คุณจำเป็นต้องมีพลัง และใช้มันเพื่อไปยังโลกต่าง ๆ มิติต่าง ๆ ระดับต่าง ๆ เพื่อการเจรจา และการเสียสละด้วยฉันเข้าใจว่าจากภายนอก อาจดูง่ายสำหรับอาจารย์คนใดก็ตาม แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย มันไม่ง่าย แค่ดูแลตัวคุณเองให้ดี บำเพ็ญให้ดี เพื่อจะก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น และโอกาสของคุณ ที่จะเป็นอาจารย์... คุณไม่มีทางรู้ได้เลย อาจจะเร็ว ๆ นี้ หรืออาจในชาติหน้า ถ้าคุณเป็นอาจารย์จริง ๆ คุณจะรู้ อย่าอ้างเพียงเพื่อชื่อเสียง และผลประโยชน์เท่านั้น มันต่ำเกินไป ต่ำกว่าศักดิ์ศรีของคุณเกินไป อย่าทำแบบนั้นกับตัวเอง เพราะสวรรค์ทุกแห่งและทุกโลก ต่างก็รู้เรื่องนี้ และพวกเขาก็ล้วนหัวเราะกัน และการลงโทษจะรุนแรงมาก เมื่อคุณออกจากการป้องกัน ทางกายภาพของร่างกาย คุณจะไม่อยากเกิดมาเลยด้วยซ้ำ จากความทุกข์ทรมานต่าง ๆ ที่คุณจะได้พบโปรดอย่าฝันที่จะเป็นอาจารย์ เพียงเพราะคุณไม่ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะคุณไม่ใช่ หากคุณต้องการเข้าร่วมกับ พระและแม่ชีจริง ๆ เพื่อออกไปให้การประทับจิต เพื่อช่วยให้ผู้อื่นได้รับการหลุดพ้น หากนั่นคือความตั้งใจของคุณ อย่างแท้จริงโดยไม่มีเงื่อนไข คุณสามารถบอกฉันได้ แล้วฉันจะดูว่าคุณทำได้ไหม แล้วคุณก็สามารถออกไปทำแบบนั้น หรือไปกับพระและแม่ชี และช่วยเหลือพวกเขาในบางเรื่อง และเรียนรู้กับพวกเขา แล้วต่อมา เมื่อคุณทำได้ และถ้าระดับของคุณสูงขึ้น ฉันก็สามารถบอกว่าโอเคปกติแล้ว พวกเขาทุกคน จะต้องรายงานชื่อทั้งหมดให้ฉัน ทราบก่อน ยกเว้นหนึ่งหรือสองครั้ง ที่ค่ายผู้ลี้ภัย ชาวเอาหลัก (เวียดนาม) การจะเข้าไปข้างในนั้น ยากมาก ดังนั้นเราจึงผ่อนปรน กฏเกณฑ์เล็กน้อย มันไม่ใช่เพราะเราควบคุม หรืออะไร เราแค่ต้องการให้ผู้คนเข้าใจจริง ๆ ว่า ธรรมวิถีนี้มีค่าแค่ไหน และพวกเขาจะต้องรักษา และบำเพ็ญมันจริง ๆ เพื่อที่จะรู้ความจริง เพราะถ้าพวกเขาไม่บำเพ็ญ พวกเขาก็ไม่รู้อะไรเลย! พวกเขาไม่สามารถพัฒนาได้ พวกเขาไม่สามารถก้าวไปสู่ ระดับที่สูงขึ้นได้ พวกเขาไม่สามารถ ได้การรู้แจ้งที่สูงขึ้นได้ แล้วพวกเขาจะหันมาพูดว่า “โอ้ นั่นไม่ใช่อะไร สำหรับฉันเลย” มันไม่ใช่วิถีที่ดีหรืออะไร” คุณจะไม่ได้รับพรใด ๆ หรือประสบการณ์ หรือนิมิตภายในใด ๆ เลย แล้วคุณจะคิดว่า มันไม่มีอะไรเลย เพราะคุณไม่บำเพ็ญ!ครั้งแรก ในช่วงการประทับจิต คุณได้รับประสบการณ์ และนั่นคือวิธีที่คุณเชื่อ ในการบำเพ็ญธรรมวิถีนี้ ธรรมวิถีกวนอิม แต่ถ้าคุณไม่บำเพ็ญต่อ เมื่อคุณกลับบ้าน แล้วคุณเห็นคนอื่น เห็นนิมิตและทั้งหมดนั่น และคุณเห็นฉันมีลูกศิษย์เพิ่มมากขึ้น และวิธีที่ฉันออกไป พูดคุยกับผู้คน ยิ้มแย้มแจ่มใส แจกขนม (วีแกน) อาหารได้รับพร และอื่น ๆ อยู่เสมอ คุณคิดว่า "โอ้ มันง่ายมาก" ฉันสามารถทำแบบนั้นได้ ไม่ ไม่ ไม่ คุณต้องมีพลังมหาศาล ในการ ยกผู้คนขึ้นมา แม้กระทั่งจากนรก เพื่อกอบกู้จิตวิญญาณของพวกเขา คุณต้องลงนรก เพื่อช่วยชีวิตพวกเขาด้วยซ้ำ คุณต้องทุกข์ทรมานเพื่อพวกเขา เพื่อกอบกู้จิตวิญญาณของพวกเขาเพราะจิตวิญญาณบางดวง ถูกผูกติดอยู่กับหล่ม แห่งภาพลวงตาและความคิดที่ผิด และภาระอันหนักหน่วง ของกรรม การฆ่า การทำแท้ง และสารพัดสิ่ง ที่คุณไม่สามารถจินตนาการได้ว่า ผู้คนจะต้องประสบ หากมองจากภายนอก แม้แต่พระบางรูป ไม่ต้องพูดถึงคนปกติเลย พวกเขาดูเป็นแค่คนธรรมดา! พวกเขาพูดหวานราวกับน้ำผึ้ง พวกเขาจะไม่แสดง ตัวตนที่แท้จริงให้คุณเห็น จนกว่ากรรม จะทำให้พวกเขาถูกเปิดเผย แล้วคุณก็ยังคงไม่เชื่อ คุณบอกว่า "ไม่ ไม่ใช่คนนี้ ไม่!" เขาพูดจาไพเราะ และรู้พระสูตรเป็นอย่างดี เขาพูดถึงคำสอนของพระพุทธศาสนา เขาคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก” ไม่ คุณไม่สามารถรู้ได้เลย ประเด็นก็คือ คุณไม่สามารถรู้ได้เลย คุณก็แค่ต้องอธิษฐาน ดูแลตน ให้เป็นคนดีและบริสุทธิ์ คุณไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร คุณไม่มีวันรู้เลยมีพระพุทธะพระองค์หนึ่ง พระนามว่า พระจี้กง ท่านพกน้ำเต้าชนิดหนึ่ง ที่คนสมัยโบราณ ใช้ดื่มเหล้า และพระองค์ก็ดื่มน้ำจากมัน อาจจะเป็นไวน์จริง ๆ ข้างใน แต่พระองค์ก็ไม่เคยดื่มจริง ๆ ผู้คนจึงดุว่าพระองค์ และสิ่งต่าง ๆ มากมาย ท่านไม่เคยดื่มเลย ท่านไม่เคยทานเนื้อชาวสัตว์ แม้ว่ามันจะดูเป็นเช่นนั้นก็ตาม ท่านไม่ได้กิน เนื้อชาวสัตว์จริง ๆ ปัจจุบัน เราสามารถกิน อย่างขาไก่วีแกน มันมีลักษณะ เหมือนขาของชาวไก่ ไก่วีแกน ที่มีลักษณะเหมือน ชาวไก่ทั้งตัว แต่มันไม่ใช่ บางทีในสมัยนั้น ท่านก็ทำสิ่งที่คล้าย ๆ กันพวกเขาจึงกล่าวว่าพระพุทธเจ้า ทรงเสวยขาชาวหมูด้วย พระองค์ไม่เคยทำเลย ไม่ พระองค์ตรัสด้วยว่า ผู้ใดกินเนื้อชาวสัตว์ ก็ไม่ใช่ลูกศิษย์ของพระองค์ คุณทุกคนรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่สมัยนี้ ผู้คนไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้นแล้วตอนแรก พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต เพราะมีคนเข้ามา และไม่รู้อะไร พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “ถ้าคุณต้อง กินเนื้อชาวสัตว์ ก็กินเนื้อ ที่มีกรรมน้อยกว่า เช่น เนื้อที่ตายบนท้องถนน หรือเนื้อที่ตาย ตามธรรมชาติ หรือใครบางคนฆ่าพวกเขา แต่ไม่ใช่เพื่อคุณโดยเฉพาะ และคุณไม่ได้ยิน เสียงร้องของชาวสัตว์ เมื่อพวกเขาถูกฆ่า” แต่นี่เป็นเพียงตอนต้นเท่านั้น พระพุทธเจ้าทรงพยายามให้พวกเขา เข้าถึงคำสอนที่แท้จริง เนื่องจากเมื่อพระพุทธเจ้า เพิ่งเสด็จออกมา พระองค์ยังไม่มีลูกศิษย์มากเท่าใดนัก บางคนก็เชื่อในพระองค์ และติดตามพระองค์ ไปยังที่ที่พระองค์ทรงประทับ แต่พวกเขากลับไม่มีอาหารกิน พวกเขาจึงออกไปกินเนื้อชาวสัตว์ และกลับมาหาพระองค์ เป็นต้นพระพุทธเจ้าไม่ได้มีอาศรม จนกระทั่งในเวลาต่อมา เมื่อผู้ศรัทธาที่แท้จริง ต้องการซื้อที่ดิน ด้วยทองคำ โดยนำมาปูบนพื้นเหมือนอิฐ เนื่องจากเป็นราคาที่เจ้าชาย ผู้เป็นเจ้าของที่ดินนั้น ต้องการ นั่นคือสิ่งที่พระองค์ตรัส เขากล่าวว่า “ถ้าท่านปู ก้อนทองคำทั้งหมด...” เหมือนที่ ตอนนี้ที่เรามีก้อนทองคำ “ถ้าท่านปูบนพื้นในสวนของฉัน ให้เต็มด้วยก้อนทองคำเหมือนอิฐ ฉันจะขายมันให้กับท่าน นั่นคือราคา” เศรษฐี อยากจะซื้อในราคานี้ เขาต้องการนำเกวียน ทองคำมาหลาย ๆ คัน มาวางไว้ที่บริเวณสวน เพื่อให้พระพุทธเจ้าและพระภิกษุ จะได้พักอย่างสะดวก เพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง แต่ไม่ใกล้นัก สะดวกแก่พวกท่าน ไปบิณฑบาต และสะดวกแก่ผู้คนที่จะมา ในเวลานั้นด้วยPhoto Caption: รักชีวิต ลึก ๆ ในหัวใจ