มีอีกวิธีหนึ่ง ที่เราสามารถสร้างโลกใหม่ โดยไม่ต้องมีการตาย และการทำลายล้างมากนัก อย่างไรก็ตาม มันต้อง ทำงานเยอะมาก ๆ […] มันเป็นแบบนี้: ข้อที่ 1 ก่อนอื่น อาจารย์ – ใครก็ตามที่อยาก ทำเรื่องนี้ อาจารย์ – จะต้องตาย แต่ถ้าอาจารย์ผู้นี้ มีพลังเพียงพอ แล้วเธอ/เขา ก็จะสามารถชุบชีวิตตัวเธอ/เขาเอง ได้อีกครั้ง หลังจากสักพักหนึ่ง และเกือบจะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง การเกิดใหม่ แล้วหลังจากนั้น เธอ/เขาก็สามารถใช้ พลังที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เราต้องคำนึงถึง กรรมของดาวเคราะห์นี้ ซึ่งใหญ่โตมโหฬาร มหึมาไม่มีขีดจำกัด
สวัสดี บุตรของพระเจ้าที่รัก และงดงามที่สุดทุกคน อธิษฐานต่อพระเจ้าสูงสุดเพื่อให้พรคุณ! การพูดครั้งนี้ ฉันพบว่ามันยากกว่า การพูดครั้งอื่น ๆ ที่ฉันเคยทำมาก่อน ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ฉันไม่มีเวลา ค้นหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และฉันแค่หวังว่าฉันจะสามารถ ทำให้เสร็จสิ้นได้ แม้ว่าฉันจะได้เตรียมไว้แล้ว และทำการค้นคว้าเพิ่มเติม เกี่ยวกับจักรวาลที่ไม่รู้จัก อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่จนถึงนาทีสุดท้าย มันก็ยังยาก ที่จะพยายาม พูดมันออกมาได้ ตอนนี้ ฉันกำลังสวดภาวนา และฉันพยายาม ฉันยังคงพยายามอยู่ หลายครั้งที่ ฉันบันทึกไว้ แต่ได้นิดหน่อย แล้วมันก็ใช้ไม่ได้ และฉันลบมันทิ้ง อาจเป็นเพราะฉันลังเล ที่จะเปิดเผยเรื่องนี้มาก่อน สักระยะหนึ่ง และฉันก็ต้องบันทึกอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง หวังว่าครั้งนี้มันจะได้ผล
โอเค จำได้ไหมว่าเรา เคยพูดถึงการทำให้โลกนี้ กลายเป็นสวรรค์? และฉันก็บอกว่า ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีอาจารย์คนใด สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่เมื่อไม่นานนี้ ฉันจำได้ว่า มีวิธีที่ เราสามารถฟื้นฟูโลกนี้ได้ ฉันหมายถึงต่ออายุ หรือฟื้นฟู – หมายถึงทำให้มันแตกต่างไป จากที่เป็นอยู่ตอนนี้ – และคุณสามารถกอบกู้โลกได้ แต่มีข้อแม้ที่ยากข้อหนึ่ง ไว้ฉันจะบอกตอนท้าย ถ้าข้อแม้นั้น จะสำเร็จ… ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มาก มันแค่ยาก เพราะมนุษย์ ไม่อยากเปลี่ยน แค่นั้นเอง โดยการขอน้อยมาก ๆ: เป็นวีแกน
โอเค ตอนนี้ มันมีวิธี ในการฟื้นฟูโลก แต่มันไม่ง่ายนัก อย่างที่คุณจินตนาการ เช่น "อาจารย์ มีพลังมหาศาล แค่โบกมือ หรือพูด 'ฮูลาฮูป' – ร่ายมนตร์ – แล้วก็เสร็จ" มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่ถึงอย่างไร มันก็ทำได้ มันเป็นอย่างนี้: มีสองวิธี ในการต่ออายุโลกนี้ วิธีแรก คือ วิธีที่เราส่วนใหญ่รู้กัน: ว่าโลก จะถูกทำลาย ฉันหมายถึง ประชากรโลก จะถูกทำลายเกือบทั้งหมด อาจจะเหลือน้อยมาก ประมาณ 5% ของประชากร หรือน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาจะเริ่มต้นใหม่ อีกครั้ง เหมือนกับยุคหิน หรือยุคที่นานมาแล้ว
แต่มีอีกวิธีหนึ่ง ที่เราสามารถสร้างโลกใหม่ โดยไม่ต้องมีการตาย และการทำลายล้างมากนัก อย่างไรก็ตาม มันต้อง ทำงานเยอะมาก ๆ ฉันจะบอกคุณให้มากที่สุด เท่าที่ฉันจะทำได้ และมากที่สุดเท่าที่คุณจะเข้าใจได้ มันเป็นแบบนี้: ประการที่ 1 ก่อนอื่น อาจารย์ – ใครก็ตามที่อยาก ทำเรื่องนี้ อาจารย์ – จะต้องตาย แต่ถ้าอาจารย์ผู้นี้ มีพลังเพียงพอ แล้วเธอ/เขา ก็จะสามารถชุบชีวิตตัวเธอ/เขาเอง ได้อีกครั้ง หลังจากสักพักหนึ่ง และเกือบจะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง การเกิดใหม่ แล้วหลังจากนั้น เธอ/เขาก็สามารถใช้ พลังที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เราต้องคำนึงถึง กรรมของดาวเคราะห์นี้ ซึ่งใหญ่โตมโหฬาร มหึมาไม่มีขีดจำกัด และ โอ้ พระเจ้า คุณไม่สามารถจินตนาการได้เลย ว่ากรรมที่สั่งสม มายาวนานมาก ๆ นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน เพราะเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณเห็นไหมว่านั่นคือสาเหตุ ที่บ่อยครั้งเราต้องเผชิญ กับโรคระบาดใหญ่ หรือโรคระบาด หรือสงคราม หรือ ความอดอยาก หรือภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น – เพื่อลดจำนวนประชากร ของดาวเคราะห์นี้ คนตาย ทนทุกข์ พิการ หรือทุพพลภาพ มีหลายสิ่งเกิดขึ้น กับคนจำนวนมาก และความตายด้วย แน่นอน และกรรมของโลก ก็จะน้อยลงเล็กน้อย ดังนั้น เราจึงรอด และมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่แล้วเราก็สร้างกรรม ที่คล้ายกันอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วมันก็จะสะสมเพิ่มขึ้น จนกระทั่งครั้งหนึ่ง มันจะปะทุ เป็นภัยพิบัติ โรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาด สงคราม ความอดอยาก ฯลฯ ดังที่เราเห็นในปัจจุบัน เป็นเรื่องเร่งด่วนและสิ้นหวัง ดูเหมือนว่าโลกกำลังจะอวสาน - และมันก็เป็นเช่นนั้น
และเราเห็นแล้วว่า มีผู้มีญาณทิพย์กี่คน ที่มีความสามารถนี้ ในการทำนายอนาคต เช่น นอสตราดามุส หรือบาบา วานก้า และอีกหลาย ๆ คน ที่เราได้พยายาม ค้นคว้า รวบรวม และ ถ่ายทอดทาง โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ของเรา และคุณคงถามฉันว่า เหตุใดพวกเขาทำนายมาตลอด ว่าโลกจะอวสาน ราวกับใกล้จะเกิดขึ้นในยุคของพวกเขา แต่แล้วมันก็ยังไม่อวสาน มันจะอวสานเมื่อถึงเวลา
เป็นเพียงเพราะ ผู้มีญาณทิพย์เหล่านี้ มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ในขณะที่พวกเขาเชื่อมต่อ กับสวรรค์ชั้นสูง เวลาในสวรรค์ และ เวลาบนดาวเคราะห์ของเรา ต่างกัน หนึ่งวินาที หนึ่งนาที ที่ผ่านไป อาจยาวนาน ถึงร้อยปีของเราบนโลก ดังนั้น อย่าบอกว่า พวกเขาทำนายไม่ถูกต้อง– พวกเขาทำนายถูกต้อง เราเพียงต้องขอบคุณพระกรุณา ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงเมตตา ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด และนักบุญ นักปราชญ์ ผู้มีเมตตาทุกท่าน ที่มอบบุญและพระพร อันมหาศาลเพื่อค้ำจุน โลกของเราจนถึงปัจจุบันนี้ มิฉะนั้น เราก็คงไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ แต่มีระดับ การทำลายล้างน้อยลง และ จำนวนการเสียชีวิตของมนุษย์ และชาวสัตว์ก็น้อยลงเช่นกัน และการทำลายล้างอื่น ๆ คุณสามารถเห็นได้อย่างดี เราพยายามถ่ายทอดผ่าน โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ของเรา โปรดเข้าไปดู และคุณจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
ตอนนี้ ขอขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพที่ทำให้ฉันจำได้ถึง วิธีการกอบกู้โลกนี้ วิธีการนี้เกี่ยวข้องกับ การเสียชีวิตของอาจารย์ – ไม่ว่าโดยสมบูรณ์ ถ้ามันล้มเหลว หรือชั่วคราว ชั่วขณะหนึ่ง และอาจารย์ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว หลังจากที่อาจารย์ฟื้นคืนชีพแล้ว อาจารย์ก็จะมีพลังมากขึ้น เพราะการเสียชีวิต ของอาจารย์จะลบล้าง กรรมบางส่วนไป ดังนั้น เธอ/เขา จะสามารถฟื้นคืนชีพ และมีพลังมากขึ้น เพื่อดำเนินวิธีทางนี้ วิธีการนี้ เพื่อช่วย มนุษยชาติและโลก พูดง่าย – แต่ไม่ง่ายที่จะทำ ไม่ง่ายที่จะทำสำเร็จ
โอเค ฉันจะทำให้มันสั้นและเรียบง่าย เหตุผลที่อาจารย์ทุกคนมา แต่ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ หรือกอบกู้โลกได้ ก็เพราะว่ามันไม่ใช่ "เวลาอวสาน" – ไม่เหมือนเวลานี้ และเมื่ออาจารย์ อยู่บนดาวเคราะห์นี้ พวกท่านต้องแบกรับ กรรมของโลกด้วย มันหนักมาก ๆ ๆ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มันครอบคลุมท้องฟ้าได้ทั้งหมด และคุณก็รู้ว่า ท้องฟ้ากว้างใหญ่เพียงใด ดังนั้น ส่วนใหญ่ เมื่ออาจารย์เสียชีวิต กรรมของโลกจะสลายไป เพราะพวกท่านดูดซับมัน เข้าสู่ตัวพวกท่านเอง ขณะที่พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อยกระดับมนุษยชาติ
ดังนั้น เมื่ออาจารย์เสียชีวิต กรรมก็จะไม่อยู่ กับอาจารย์อีกต่อไป เพราะอาจารย์ ไม่มีร่างกาย จิตใจ และสมองที่จะเก็บ กรรมของโลกนั้นไว้อีกต่อไป และเมื่ออาจารย์เสียชีวิต นั่นหมายถึงกรรมก็สลายไป และถ้าอาจารย์ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง มีชีวิตอีกครั้ง ณ ขณะนั้น กรรมก็ยังไม่กลับมา กองทับถมกัน อาจารย์จึงสามารถฟื้นคืนชีพ และเชื่อมต่อใหม่กับ พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ กับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้อีกครั้ง เพื่อเติมพลังอาจารย์ ทั้งหมดให้เต็มอีกครั้ง จากนั้น อาจารย์ ก็จะสามารถใช้พลัง เพื่อสร้างโลกใหม่ได้
ฉันบอกคุณแล้วว่าการพูดครั้งนี้ ยากมาก ยากมาก มันยากที่จะพูด แม้ว่าฉันจะรู้ทุกอย่างแล้ว แต่มันก็ยากที่จะแสดงออกมา ไม่ใช่หัวข้อที่ง่าย พยายามทำความเข้าใจดู ได้โปรด แต่ไม่ใช่อาจารย์เพียงคนเดียว อาจารย์ต้องทำงาน กับระบบกรรม และต้องทำอย่างลับ ๆ แม้แต่พระเจ้าแห่งกรรม ก็ไม่สามารถรู้เรื่องนี้ได้ – ไม่สามารถรู้ได้ว่า กรรมของโลก กำลังจะหมดไป ฉันจะพูดให้รวบรัด
หลังจากขจัดกรรมออกไปแล้ว มันจะถูกขังอยู่ในสนาม ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งนั้นว่าอย่างไร มันไม่ใช่ดาวเคราะห์ มันไม่ใช่สนามหญ้า เหมือนสนามหลังบ้าน หรือสนามหน้าบ้านของคุณ แต่มันเรียกว่า "สนาม" ไม่ได้เรียกว่า ดาวเคราะห์ และสนามนั้นมันใหญ่ กว่าดาวเคราะห์นี้หลายกาซิลเลียน ของกาซิลเลียนของกาซิลเลียน ของกาซิลเลียนของกาซิลเลียนเท่า และมันอยู่ห่างจากโลกนี้ หลายซิลเลียน ของซิลเลียน ของซิลเลียน ของซิลเลียนปีแสง และสนามนั้นไม่มีต้นไม้ หรืออะไรแบบเหมือน เรามีในสนามหลังบ้านของเรา มันแบน ไม่กลมเหมือนดาวเคราะห์นี้ คุณอาจเรียกมันว่า "ลานทราย" ได้ ถ้าคุณต้องการ แต่ใหญ่กว่า ดาวเคราะห์นี้หลายกาซิลเลียน
กาซิลเลียนของกาซิลเลียนเท่า และสนามนั้น ถ้าคุณสามารถมองเห็นได้ มันถูกปกคลุมไปด้วยทราย มันดูเหมือนทราย และมีสีคล้ายไข่มุก มันไม่มีอะไรอื่นในนั้น สนามนั้นอยู่ห่างไกล จากดาวเคราะห์อื่น ๆ และกาแล็กซีอื่น ๆ สามารถถูกล็อกอยู่ตลอดกาล อย่างน้อยก็ตอนนี้ และไม่มีใครสามารถเปิดมันได้ จริง ๆ แล้วการจะอ้างอิงคำที่แน่นอน ของพระองค์ท่าน พระราชาแห่งกรรม: “ไม่มีใครสามารถไขกุญแจได้” มันไม่ใช่คำพูดของฉัน กุญแจเพื่อเปิดได้ ฉันจะไม่บอกคุณ ว่าใครเก็บมันไว้ หรือที่ไหน แม้ว่าคุณจะฆ่า คนเก็บกุญแจ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี ดังนั้น ฉันไม่กลัวสิ่งนั้น เพียงแต่ว่าไม่ได้รับอนุญาต ให้บอกเท่านั้น
ตอนนี้ หลังจากที่กรรม ถูกกำจัดออกไป และถูกเก็บไว้สนามนั้นแล้ว โลกก็เป็นอิสระ - ชั่วคราว – จนกว่าสิ่งต่าง ๆ จะคลี่คลาย และ เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งข้อแม้ ที่ฉันบอกคุณก่อนหน้านี้ ตอนนี้ ยังไม่เป็นไปตาม มาตรฐานดังกล่าว แต่อย่างน้อยเราก็มีความหวัง ที่ยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต