ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ผีก่อกวนประกาศอย่างผิด ๆ ว่า เขาคือพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า ตอนที่ 5 ของ 9 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ปีศาจ อสุรกาย และผี มีพลังดึงดูดอยู่บ้าง เพราะว่าพวกเขาแตกต่าง จากมาตรฐานของมนุษย์ มนุษย์เราก็มีพลังเช่นกัน แต่ถูกกดไว้เพราะ เราได้ทำอะไรบางอย่าง ที่กดพลังทั้งหมดของเรา หรือเราสาบานว่าจะทำงาน โดยปราศจากพลัง เพราะในโลกมายา ซึ่งก็คือโลกนี้ คุณ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลัง หากคุณมาจากสวรรค์ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ พลังเวทมนตร์โจ่งแจ้ง เพื่อดึงดูดผู้คน มีเพียงปีศาจ อสุรกาย และมารเท่านั้นที่สามารถทำได้ เพราะพวกเขาได้ควบคุมโลกนี้ มานานแล้ว

ดังนนั้น ใครก็ตามที่มาจาก สวรรค์ ต้อง เซ็นสัญญาให้เงียบ ทำงานอย่างเงียบ ๆ ไม่อย่างงั้น แต่การเป็นอาจารย์ คุณทำงานเงียบ ๆ ไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็ว ผู้คนจะบอกกันและกัน จะบอกไปกว้างไกล และอาจารย์มักจะ เดือดร้อน คุณบอกมาเลยว่ามีอาจารย์ท่านใด ที่ไม่เดือดร้อน ไม่ ไม่มีเลย ไม่มีอาจารย์ที่แท้จริงท่านใด ที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ และชีวิตที่ดี ก็ แน่นอน สักช่วงระยะหนึ่ง เมื่อมีสันติภาพ ในบางประเทศที่สงบสุข อาจจะเป็นอาจารย์ที่โชคดี แต่น้อยมาก น้อยมาก ๆ ส่วนมาก พวกเขา ถูกทรมาน ตลอดชีวิตของพวกเขา และตายอย่างโหดร้าย ถ้าอาจารย์ที่แท้จริง มันเป็นอย่างนั้น เพราะมายารู้ ว่าใครเป็นอาจารย์ที่แท้จริง ดังนั้น พวกเขาจะตามล่าพวกท่าน เพื่อขัดขวาง และ/หรือ กำจัด อาจารย์และคำสอนของพวกท่าน!

พวกภิกษุเลวทราม และเทศน์-ไร้สาระเหล่านั้น... ฉันยังเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระภิกษุทางพุทธศาสนา ที่เทศน์แก่สาวกของเขา - พระภิกษุและแม่ชีที่ศรัทธาของเขา - ว่า “มันไม่มีดินแดน แห่งพระอมิตาภพุทธเจ้า มันเป็นเพียงทฤษฎี แล้วก็ไม่มีนรกด้วย แนวคิดเรื่องนรกเพิ่งถูก นำมาใช้เมื่อ 500 ปีที่แล้ว” ไม่ใช่ ไม่ใช่! ในสมัยพุทธกาล เราก็มีนรกแล้ว ลูกศิษย์ของพระองค์ มุกเคียนเหลียน (พระมหาโมคคัลลานะ) ต้องลงนรกไป แล้วกลับมา ทูลวิงวอนพระพุทธเจ้า ให้ช่วยมารดาของท่าน มารดาที่หลอกพระภิกษุ และให้เนื้อ (ชาวสัตว์) แก่พวกเขา โดยบอกพวกเขาว่า เป็นอาหารวีแกน และ คนนั้น (พระเจ้าวิรูฑะกะ) ผู้ที่ทำลาย ตระกูลของพระพุทธเจ้า ก็ตรงไปลงนรกทันที หลังจากที่ ประหารหมู่ ตระกูลของพระพุทธเจ้าอย่างโหดร้าย เขาและกองทัพทั้งหมด จมน้ำตายจากน้ำท่วม - ตายอย่างกะทันหันเช่นนั้น ทุกคน และตกนรก นรกอเวจี หรือนรกที่ไม่หยุดยั้ง นั่นอยู่ในพระสูตรทางพุทธศาสนา ไม่ใช่ฉันที่พูด!

“ต่อมา ตระกูลศากยะจึงสั่งให้ เปิดประตูเมือง คราวนั้น พระเจ้าวิรูฑะกะ ตรัสกับเหล่าเสนาบดีของเขาว่า: ‘บัดนี้สมาชิกเผ่าศากยะมีจำนวนมาก ดาบและมีด ไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทั้งหมด จึงฝังพวกเขาทั้งเป็น ลงในดิน แล้วต่อมา ให้ช้างป่า เหยียบย่ำพวกเขาจนตาย’ ในเวลานั้น เสนาบดี ก็เชื่อฟังคำสั่งของกษัตริย์ และใช้ช้างเหยียบย่ำ ผู้คนเหล่านั้นจนตาย […] พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า: ‘บัดนี้ ราชาวิรูฑะกะ และกองทัพของเขา จะไม่คงอยู่ในโลกนี้นานนัก หลังจากเจ็ดวันแล้ว พวกเขาก็จะถูกทำลาย’ ราชาวิรูฑะกะได้ส่งคนไป เพื่อนับวัน และเมื่อถึงเริ่มเข้า วันที่เจ็ด ราชาก็ปีติยินดี และไม่อาจห้ามใจไว้ได้ เขาจึงนำกองทหาร และบริวารหญิง ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำอจิรวตี เพื่อพักผ่อน และพักผ่อนที่นั่น ในเวลาเที่ยงคืน เมฆที่ไม่คาดคิดรวมตัวกัน และลมแรงและ ฝนตกหนักมาเร็วมาก ราชาวิรูฑะกะและ พวกทหารถูกพัดพาไป โดยน้ำ และตายไปทั้งหมด ร่างกายของพวกเขาถูกทำลาย และชีวิตของพวกเขาก็จบลง ในนรกอเวจี มีไฟจากสวรรค์ด้วย ที่ได้เผาพระราชวัง ในเมือง […] แล้วพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสเป็นบทโคลงว่า: ‘กรรมชั่วมีล้นเหลือจริง ๆ ทั้งหมดเกิดจากการกระทำ ของทั้งร่างกายและปาก ร่างกายนี้ทุกข์และอายุสั้น ถ้าอยู่ที่บ้าน จะถูกเผาด้วยไฟ เมื่อชีวิตสิ้นสุดลง ย่อมเกิดในนรกอย่างแน่นอน’”

แล้วพระภิกษุผู้นั้น ซึ่งน่า จะเป็น พระภิกษุที่มีชื่อเสียง มียศสูง ชื่อของเขาคือ ติช นัท ตื่อ จะเทศนาและ บอกคนของเขาได้อย่างไร ว่าไม่มีนรกและไม่มี ดินแดนของอมิตาภพุทธเจ้า?

ตัดตอนมาจาก "นรกมีจริงหรือไม่? – ติช นัท ตื่อ” : ตามหลักศาสนาพุทธเถรวาทนั้น มันชัดเจนว่าภาพของนรก เป็นแค่เพียงสื่อ ของการศึกษาด้านศีลธรรม เพราะถ้าทุกคนจะ เกิดใหม่ทันที มันก็จะไม่มีนรก

ตัดตอนมาจาก "ติช นัท ตื่อ: ดินแดนบริสุทธิ์ตะวันตก ไม่มีอยู่จริง" : การท่องพระนามของพระพุทธเจ้า สามารถนำไปสู่การเกิดใหม่ใน ดินแดนบริสุทธิ์ตะวันตกแห่ง ความสุขอันสูงสุดได้หรือไม่? คำตอบ ตามประวัติศาสตร์และ จากพระสูตรที่ 18 ในทีฆะนิกาย คือคำตอบว่าไม่ใช่ เพราะดินแดนตะวันตกอันบริสุทธิ์แห่ง ความสุขอันสูงสุด ไม่มีอยู่จริง

เหล่าศิษย์ของฉันได้ไปที่ ดินแดนของพระอมิตาภพุทธเจ้าและ บรรยายเรื่องราวทั้งหมดที่นี่

การเดินทางสู่สวรรค์ -สวรรค์ ตะวันตกของพระอมิตาภพุทธะ หรือ “ดินแดนบริสุทธิ์สุขาวดี”

และแม้แต่พระรูปหนึ่งใน เอาหลัก (เวียดนาม) พูดว่าสามารถ มองเห็นดินแดนของพระอมิตาภพุทธเจ้า ได้เหมือนกับลายมือของเขา ของพระองค์ (ติช ซ่าค คัง)

ข้อความจากหนังสือ การมองเห็น แดนบริสุทธิ์ของพระอมิตาภพุทธเจ้า ชัดเจนเท่ากับการมองเห็น เส้นบนฝ่ามือ – พระภิกษุ ติช ซ่าค คัง ที่เคารพ : ใครก็ตามที่อ่าน พระสูตรเพชรแล้ว เข้าใจถึง “ความชั่วคราว” จะได้มองเห็นโลก ของพระอมิตาภะ เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันไม่มีปัญหา เรื่องความเชื่อหรือความไม่เชื่อ ฉันเห็นดินแดนบริสุทธิ์ราวกับว่ามัน อยู่ในฝ่ามือของฉัน มันชัดเจนขนาดนั้น ฉะนั้น ถ้าคุณสามารถบรรลุสมาธิ ได้แม้เพียงครั้งเดียว คุณก็จะได้ไปเกิดใหม่ ในแดนสวรรค์

ดังนั้น หลายคนสามารถเห็น ดินแดนของพระอมิตาภพุทธเจ้าได้ แล้วคุณ ในฐานะพระ พูดว่า ไม่มีดินแดน ของพระอมิตาภพุทธเจ้าได้ยังไง? เขาบอกว่าเป็น “แค่แนวคิดเท่านั้น” ... และไม่มีนรกด้วยซ้ำ ว้าว ว้าว ว้าว! หวังว่าเขาจะไม่ต้อง ลงนรกเพื่อค้นหาคำตอบ มีแม่ชีคนหนึ่งเขียนถึง ประสบการณ์ในนรกของเธอ เธอเคยขายชาวไก่ และชาวเป็ด และเธอก็ตกนรกและ พวกเขาเหล่านั้นก็ลงโทษเธอ เธอเกือบจะต้องจากไปตลอดกาล แต่เพราะ พระโพธิสัตว์กวนอิมเข้ามาขัดขวาง และช่วยเหลือเธอ... แล้วเธอก็ต้องถูกลงโทษ ชั่วคราวสักระยะหนึ่ง แล้วเธอก็ได้รับการปล่อยตัว และกลับมาปฏิบัติธรรมเป็นแม่ชี ต่อไปอย่างขยันขันแข็งยิ่งขึ้น

ตัดตอนมาจากเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น ของแม่ชีชาวเวียดนามที่ไปนรก ความจริงมากมายถูกเปิดเผย : เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ฉันพบว่าตัวเองอยู่ใน ทิวทัศน์ที่สวยงาม มีต้นไม้เขียวขจี มีสะพานยาวมาก ฉันเดินขึ้นไปบนสะพาน สักพักหนึ่ง จากนั้นสะพานก็พังทลาย ฉันตกลงไปในแม่น้ำ และพยายามว่ายน้ำ แต่ไม่สามารถไปถึงฝั่งได้ น่าแปลกที่ริมฝั่งแม่น้ำอยู่ ตรงนั้น แต่ฉันไม่สามารถไปถึงได้ ไม่ว่าจะออกแรงว่ายน้ำแค่ไหน ในขณะนั้น ฉันรู้สึกหลงทาง และหวาดกลัวมาก กระแสน้ำค่อย ๆ พาฉัน ออกไปยังประตูทะเล และ น้ำเย็นลงมาก แทงทะลุหัวใจและตับของฉัน

ฉันมองไปรอบ ๆ และเห็นว่า ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนอื่นอีกนับไม่ถ้วน กำลังล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ลงไปในทะเลอันหนาวเหน็บนี้ มีทั้งชาวตะวันตก ชาวเอเชีย ทั้งคนแก่และหนุ่มสาว ทั้งชายและหญิง ฉันรู้สึกหนาวสั่นและ ร่างกายแข็งทื่อ ฉันรู้สึกกลัวจนพูดไม่ออก ฉันได้ยินเสียงจากเบื้องบนว่า “สวดพระนามของพระพุทธเจ้า!” ฉันพยายามสวดสุดความสามารถ แต่กว่าจะสวดได้ก็ใช้เวลานานมาก กว่าจะออกเสียงคำว่า “พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า!” ได้ ในที่สุดฉันก็สามารถสวด “พระอมิตาภพุทธเจ้า” ได้ จากนั้นก็สวดพระพุทธพจน์เต็ม ๆ ว่า: “นะโม พระอมิตาภพุทธเจ้า” ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงรู้สึกสบายใจมากขึ้น ขณะนั้น ฉันหันไปหา บุคคลสองคนที่อยู่ข้างฉัน และสวดพระนามของพระพุทธเจ้า เพื่อช่วยพวกเขา

ในที่สุด ฉันก็ถูกพาไป ยังปราสาทอันยิ่งใหญ่ ที่มีภูเขาสูงตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ขณะที่ฉันเดินขึ้นปราสาท ฉันรู้สึกตกใจเมื่อเห็น สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว อย่างมีหัวเป็นวัวและหน้าเป็นม้า รวมถึงราชาปีศาจขนาดมหึมา อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งล้วนสูงตระหง่าน เหมือนภูเขา จากนั้น ราชาปีศาจองค์หนึ่ง ก็พาฉันไปที่ประตู ซึ่งเปิดออกโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นแสงที่เปล่งประกาย ซึ่งงดงามและอลังการ อย่างเหลือเชื่อ ในขณะนั้น ฉันก็จำได้ถึงพระโพธิสัตว์อันสง่างาม พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระกุณฑีโพธิสัตว์ ซึ่งประทับนั่ง อย่างสง่างามบนบัลลังก์ ฉันก็ก้มศีรษะลงทันทีและคุกเข่าลง แสดงความเคารพต่อทั้งสามองค์ จากนั้น พระโพธิสัตว์ทั้งสาม ก็ทรงชี้แนะให้ฉันสารภาพ และสำนึกผิดในกรรมชั่วที่ได้ทำไป เมื่อการสำนึกผิดกลับใจเสร็จสิ้นแล้ว ราชาปีศาจทั้งสองก็พาฉัน ไปสู่ขุมนรก และเริ่มต้นการเดินทางอันน่า สะพรึงกลัวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นรกนั้นกว้างใหญ่ไพศาลจริง ๆ และไม่อาจข้ามผ่านได้ หากปราศจากพลังเหนือธรรมชาติ ของราชาปีศาจ

ประตูนรกบานแรกที่จะเปิดออกคือ นรกแห่งความไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ สิ่งที่ดึงดูดสายตาของฉัน คือเหล็กแหลมที่น่ากลัว บนแท่นเหล็กแหลมขนาดใหญ่ มีรูปร่างเป็นวงกลม และมีผู้คนนับไม่ถ้วน อยู่บนนั้น ราชาปีศาจ ผลักวิญญาณบาป ให้ลอยอยู่กลางอากาศ แล้วพวกเขาก็ถูกหินก้อนใหญ่ ตกลงมาทับจากด้านบน และถูกแทงด้วยหนามเหล็ก ที่หนาเท่านิ้วมือจนเลือดไหลทะลัก ออกมาอย่างมากมาย การลงโทษนี้เหมือนกับการลงโทษอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีที่สิ้นสุด ในที่อื่น ๆ มีโต๊ะเย็นเฉียบ ที่วิญญาณนอนและนั่งอย่างสับสน หนาวเหน็บถึงกระดูก ราชาปีศาจทั้งสองกล่าวว่า นี่คือผลที่ตามมา จากการละทิ้งพ่อแม่ให้เผชิญกับ ความหิวโหยและความหนาวเย็น

ต่อมา ฉันถูกพาไปสู่ นรกชั้นที่สองที่เรียกว่า อเวจี (นรกที่ไม่มีวันสิ้นสุด) ซึ่งวิญญาณถูกส่งมาที่นี่ เนื่องจากกระทำผิด 80 ประการต่าง ๆกัน เช่น การทำธุรกิจฉ้อโกง การปล้นทรัพย์ และทำร้ายผู้อื่น การเอาดอกเบี้ย การเอารัดเอาเปรียบคนงาน และ การทะเลาะกันระหว่างพี่น้องเรื่องมรดก การลงโทษที่นี่ มีหลากหลาย เช่น การเททองแดงเดือดใส่ปาก การดึงลิ้นและการตัดลิ้น การตัดมือและเท้า การปล่อยให้งูและแมงป่องกัด และฉีกเนื้อ ฯลฯ วิญญาณผู้กระทำผิดกรีดร้อง ด้วยความหวาดกลัว หากมีกล้อง บันทึกเหตุการณ์นี้ ไม่มีหนังสยองขวัญเรื่องไหนเทียบได้ ใครก็ตามที่ได้ดูเรื่องนี้ ยอมตายดีกว่า กล้าที่จะทำบาป

ต่อไป ฉันถูกพาเข้าสู่ นรกแห่งความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ ซึ่งมีอุปกรณ์ ทรมานมากมาย เช่น เครื่องบด ตะปูเจาะ เสาทองแดงที่ลุกเป็นไฟ ฯลฯ มีหม้อต้ม ขนาดใหญ่มาก เหมือนทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เต็ม ไปด้วยผู้คนดิ้นรนและกรีดร้อง ขณะที่พวกเขาลอยขึ้นและลง วิญญาณที่ผิดจะถูกทำโทษในที่นี้ สำหรับบาปต่าง ๆ เช่น การฆาตกรรม การทำแท้ง การล่วงประเวณี การร่วมประเวณีกับญาติ การค้าประเวณี ฯลฯ

ถัดมาคือ นรกแห่งไฟ ทุกแห่งล้วนลุกโชนด้วยไฟ สงวนไว้สำหรับครูและนักเรียน ผู้ที่กระทำความผิดบาป เช่น ครู ที่กักความรู้ สอนหลักสูตรที่ผิด ๆ ขาดจิตสำนึก ทำร้ายนักเรียน และนักเรียนที่ตี หรือฆ่าครู ฯลฯ

ถัดไปคือนรก แห่ง 12 บาปใหญ่ ที่สงวนไว้สำหรับบาปใหญ่ 12 อย่าง ที่ทำอันตรายต่อสังคม เป็นเรื่องยากยิ่ง ที่วิญญาณที่ถูกสาปแช่งในนรก จะหลบหนีและไปเกิดใหม่ ในโลกอื่นได้ ภายในนรกแห่งนี้ มีทะเลน้ำแข็งปกคลุม มีสัตว์ประหลาดดุร้าย ซ่อนตัวอยู่ใต้ผิวน้ำ และด้านบนมี อุปกรณ์ทรมานต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกหนาวสั่น

การพบพระภิกษุและภิกษุณี มากมายในนรก

ฉันตกใจมาก เมื่อจำป้าของฉันได้ ท่ามกลางวิญญาณนับไม่ถ้วนที่นั่น เธอถูกปีศาจ ที่มีหัวเป็นวัว และหน้าเป็นม้าลากตัว ซึ่งคอยฟันและ ฟันร่างของเธออย่างต่อเนื่อง จนเลือดและเนื้อกระจายไป ทั่วทุกหนทุกแห่ง หากใครพยายามหลบหนี ก็จะถูกแทงเป็นชิ้น ๆ ด้วยตะขอเหล็ก ที่แขวนอยู่ด้านบนทันที ฉันพยายามเรียกป้าของฉัน แต่วิญญาณที่นี่ดูเหมือน ไม่มีหูและไม่ได้ยิน เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ ในสมัยการปกครองเก่า ป้าของฉันค้ายาเสพติดจาก กัมพูชาเพื่อขายในประเทศ เธอใช้ชีวิตอย่างหรูหรา มีเงินมากมาย มีบ้าน และรถยนต์ ในขณะที่ ลูก ๆ ของเธอใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย หลังจากปี 1975 กรรมก็ตามทันเธออย่างรวดเร็ว ทรัพย์สมบัติของเธอหมดสิ้นไป ลูก ๆ ของเธอเริ่มอกตัญญู ออกไปเที่ยวต่างถิ่น เมื่อเธอเสียชีวิต เงินก็ไม่มีพอ ที่จะซื้อโลงศพให้เธอด้วยซ้ำ แต่คนในโลกนี้มองเห็น เพียงเศษเสี้ยว ของผลกรรมเท่านั้น โดยไม่รู้ว่าผลที่ตามมา จะเลวร้ายกว่าในนรกเป็นล้านเท่า หรือพันล้านเท่า

ผู้บำเพ็ญปลอม ถูกลงโทษอย่างรุนแรง

เรือนจำถัดไปที่ฉันถูกพาไป เรียกว่า นรกอเวจีที่ใหญ่สุด ตามชื่อของมันบ่งบอกว่า เรือนจำแห่งนี้ใหญ่กว่า เรือนจำอื่น ๆ มาก มีบรรยากาศที่มืดมน และน่าขนลุก บรรยากาศที่ยากจะบรรยาย เรือนจำแห่งนี้เป็นที่คุมขังพระปลอม ที่นับถือศาสนาต่าง ๆ เช่น พุทธศาสนา คริสต์ อิสลาม และศาสนาอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงบาปต่าง ๆ มากมาย หลายร้อยอย่าง เช่น การดุพระภิกษุที่แท้จริง การใช้เงินและทรัพย์สินของรัฐ ในทางที่ผิด การทำผิดศีล และวินัยทางศีลธรรม การนำสมาชิกในครอบครัว เข้ามามีอำนาจในวัด การแสร้งทำเป็นพระภิกษุ เพื่อแสวงหากำไร การสร้างวัดปลอมเพื่อแสวงหากำไร การอธิบายคำสอน ของพระพุทธเจ้าอย่างผิด ๆ ทำให้ผู้คนตาบอดจากความจริง ฯลฯ

ราชาปีศาจแสดงให้ฉันเห็น พระภิกษุรูปหนึ่งที่ได้รับการเลื่อนยศ เป็นพระภิกษุระดับพระเถระผู้ใหญ่ อายุประมาณ 70 ปี สวมจีวรสีเหลือง นั่งอยู่บนเตียงที่ทำด้วยตะปู แขนขา ถูกสุนัขกัด และตาถูกอีกาจิก จนเลือดอาบ เขาตีความคำสอน ของพุทธศาสนาผิดไป มักให้คำอธิบายเท็จ ในการเทศนาบ่อย ๆ และโจมตีพระภิกษุแท้ นอกจากนี้ เขายังใช้ ของถวายเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ซื้อบ้าน ในชื่อของญาติ ๆ สะสมกรรมหนักมาก

ในที่สุด หลังจากพาฉัน ผ่านแดนนรกต่าง ๆแล้ว ราชาปีศาจก็พาฉัน กลับมายังสถานที่เดิม และฉันก็กราบไหว้พระโพธิสัตว์ ทั้งสามด้วยความเคารพ ได้แก่ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และพระกุณฑีโพธิสัตว์ หลังจากถวายคำนับแล้ว พระโพธิสัตว์ได้สั่งสอนฉัน ให้สวดพระนามพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์ ฉันเห็นตัวเองลอยขึ้นไปในอากาศ กลับคืนสู่โลกมนุษย์ และกลับเข้าสู่ร่างกายของฉันอีกครั้ง เป็นเวลาเที่ยงวันซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของ การเดินทางอันน่าสยดสยองของฉันผ่านนรก

เรื่องราวมากมาย! ไม่เพียงแต่ของแม่ชีเท่านั้น ฉันแค่บอกว่าเธอเป็นแม่ชี เพราะเธอจะไม่โกหกคุณ แม้ว่าพระภิกษุและแม่ชีบางคนโกหก เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ฉันไม่รู้ว่าทำไม พวกเขาไม่ได้ศึกษา พระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ พวกเขาไม่รู้สึกกลัวกรรม หรือบางทีพวกเขาเอง อาจจะมาจากนรกหรือ เป็นลูกหลานของราชามาร เพราะท่านสาบานว่าจะส่ง ลูกหลานของเขาไปเป็นพระภิกษุ และแม่ชีเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา ไม่อย่างนั้นพวกเขา คงไม่พูดแบบนั้น

เพราะสำหรับพระพุทธศาสนา ดินแดนของอมิตาภพุทธเจ้า เป็นที่รู้จักกันดี คนจำนวนมากไม่รู้อะไรมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงท่องแต่ พระนามของพระอมิตาภพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงมีแสงสว่างอนันต์ แสงของพระองค์ส่องสว่างทุกที่ แม้แต่ในนรก แม้ว่าคนในนรก ไม่สามารถมองเห็นได้ก็ตาม ผู้คนศรัทธาใน พระอมิตาภพุทธเจ้าอย่างยิ่ง เพราะพระองค์มีชื่อเสียง และวิธีหลุดพ้นก็ง่าย ตามหลักพุทธศาสนา ผู้คนเพียงแค่สวด "พระอมิตาภพุทธเจ้า" ไม่หยุด อย่างจดจ่อ และยังจินตนาการเห็นภาพดินแดน ของพระองค์ ดังที่พระศากยมุนี พุทธเจ้า ทรงบรรยายให้พวกเขาฟัง

เพราะครั้งหนึ่งพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงตอบรับคำอธิษฐาน ของพระราชินี ทรงสงสารพระนาง ทรงใช้ร่างแสงของพระองค์ไปที่ เรือนจำที่ซึ่งพระราชินี ถูกจองจำไว้ ทรงสอนพระนาง ให้ท่องพระนามพระอมิตาภพุทธเจ้า เช่นนี้ ดังนั้น พระนางจึงหลุดพ้น หลังจากการตายของพระนาง พวกเขาจะเกิดใน ดินแดนของอมิตาภพุทธเจ้า ในระดับต่าง ๆ จากต่ำสุดไปสูงสุด ค่อย ๆ ไปตามเวลา ขึ้นอยู่กับว่าคุณจริงใจเพียงใด คุณมีสมาธิแค่ไหน เวลาคุณท่อง พระนามของพระพุทธเจ้า และ เมื่อคุณจินตนาการภาพ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

“หลังจากถวายสักการะพระองค์ พระราชินีเวเทหิก็เงยพระเศียรขึ้นและ เห็นพระศากยมุนีพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า [...] ‘ข้าพเจ้าขอวิงวอนพระองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้า ให้เปิดเผย แก่ข้าพจ้าถึงดินแดนที่ปราศจาก ความโศกเศร้าและความทุกข์ยาก ที่ข้าพเจ้าไปเกิดใหม่ได้ [...]’ ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสถามเวเทหิว่า “ท่านทราบ ไหมว่าอมิตาภะอยู่ไม่ไกล? แก้ไขความคิดของท่าน และเพ่งพิจารณาถึง ดินแดนแห่งพุทธะ [...]’ ‘ในแต่ละภูมิภาคของ แผ่นดินอันเป็นอัญมณีแห่งนี้ มีโกฏิประดับเพชรพลอย อยู่ห้าร้อยโกฏิ (ห้าหมื่นล้าน) ซึ่ง เทวดาจำนวนนับไม่ถ้วน บรรเลงดนตรีแห่งสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรี ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่ง เหมือนกับเครื่องดนตรีที่ประดับ ด้วยธงประดับด้วยเพชรพลอยจาก สวรรค์ ที่สร้างโทนเสียงได้เอง โดยไม่ต้องมีผู้เล่น แต่ละเสียงประกาศคุณธรรมแห่ง การเจริญสติของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เมื่อการไตร่ตรองนี้ สำเร็จแล้ว ย่อมเรียกว่าการรับรู้ ทั่วไปถึงต้นไม้อัญมณี พื้นดินเป็นเพชรพลอย และสระน้ำเพชรพลอย แห่งแดนมหาสุข นี่คือการเห็น ประกอบและเรียกว่า การไตร่ตรองที่หก บรรดาผู้ที่รับรู้ วัตถุเหล่านี้จะกำจัด กรรมชั่วอันหนักหนาสาหัส ที่พวกเขาได้ทำไว้ ในช่วงกัลป์ นับไม่ถ้วน และหลังจาก ความตายจะเกิดในดินแดนนั้น อย่างแน่นอน’’’ ~ คัมภีร์อมิตายุธยานะสูตร

พระอมิตาภพุทธเจ้าเป็น พระพุทธเจ้าที่เป็นที่รักยิ่งที่สุดองค์หนึ่ง ฉะนั้นหากคุณเป็นพระสงฆ์ และคุณบอกว่าไม่มี ดินแดนของพระอมิตาภพุทธเจ้า ฉันไม่รู้ว่า คนจะตอบสนองต่อเรื่องนั้นยังไง ฉันเองก็ปฏิเสธคำพูดนั้น นั่นเป็นขยะ นั่นมันไร้สาระ นั่นไม่มีอยู่จริง นั่นมันต่อต้านพระพุทธเจ้า! นั่นเป็นการไม่เคารพ พระอมิตาภพุทธเจ้า และ ไม่เคารพพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ไม่เคารพพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ไม่เคารพ พระะศากยมุนีพุทธเจ้า ในพระนามของพระองค์ที่เขา (ติช นัท ตื่อ) ได้บวชเป็นพระภิกษุ และมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ไว้วางใจ ของพุทธศาสนิกชน จำนวนมากที่นับถือเขา นั่นเป็นการไม่เคารพต่อ พระพุทธศาสนาโดยรวมอย่างยิ่ง

ฉันเลยไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า พระสงฆ์ในปัจจุบันนี้ เป็นเช่นไร คุณตัดสินดูเอง ฉันแค่บอกความจริงกับคุณ ที่นาย ติช นัท ตื่อ พูดอย่างนั้น คุณสามารถอ่านคำพูดของเขาได้ และเขายังสาบาน ต่อหน้าสาธารณชนด้วย นั่นคือความจริง ฉันไม่ต้องการที่จะตัดสินอะไร ฉันแค่บอกความจริงกับคุณ คุณสามารถดูบนยูทูบ หรืออินเทอร์เน็ต ฉันเพิ่งบังเอิญไปเห็น และทีมงานของฉันบางคน ก็พิมพ์ให้ฉันอ่านด้วย บางทีเราอาจนำมาให้ดู หากพวกเขาสามารถหามันเจอได้อีก คำพูดบางส่วนของเขา และแม้แต่การสอนสาวกถึง การมีเซ็กส์และอะไรทำนองนั้น เราจำเป็นต้องมีพระ มาสอนเรื่องแบบนี้ไหม? ปัจจุบัน คุณสามารถอ่านได้ทุกที่

ตัดตอนมาจาก “ข่าวสะเทือนขวัญ” ; คนอึรดหัว อึรดหัว อึรดหัวของศาสนาพุทธ อึรดหัว ของพระภิกษุและแม่ชี อึรดการปฏิบัติ และศึกษาพระพุทธศาสนา

ตัดตอนมาจาก "พระปลอม ติช นัท ตื่อ เทศนาเกี่ยวกับเรื่องเพศ" : ในส่วนของกรรม ถ้าคุณใช้เครื่องมือ สนองความต้องการทางเพศของคุณ มันก็ไม่ถือว่าเป็นบาป พระพุทธเจ้าก็ไม่ ทรงเห็นว่าเป็นบาป

พวกเขามีมันก่อนที่ ทุกคนจะเกิดด้วยซ้ำ ก่อนที่เราจะรู้ว่าเรา มีดาวเคราะห์ดวงนี้ มนุษย์ก็รู้แล้วว่าต้องทำ เรื่องนั้นยังไง เรื่องแบบนี้พระภิกษุ ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เขาแค่พูดอะไรบางอย่าง มันเกินกว่าความเข้าใจของฉัน แต่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ในยุคสิ้นสุดธรรมะนี้ พระภิกษุไม่ใช่พระภิกษุ

Photo Caption: ปกป้องคุณแม้จะเก่ารุ่งริ่ง!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (5/9)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์