ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

การเปิดเผยของราชาแห่งสงคราม เกี่ยวกับสงครามและสันติภาพ ตอนที่ 6/7

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ฉันก็เลยไปซ่อนตัว อยู่ในรถเช่าคันหนึ่ง และรถคันเดียวที่ฉันสามารถเช่าได้ ในขณะนั้น ฉันบอกคุณแล้วว่ารถเกียร์ธรรมดา ฉันไม่เคยขับรถเกียร์ธรรมดา มาก่อนเลยในชีวิต […] ( ท่านอาจารย์ขับรถเกียร์ธรรมดา เป็นครั้งแรกบนทางด่วนได้อย่างไร? คอยรับชมเพื่อหาคำตอบ! )

ฉันก็เลยถามคนที่มา ต่อคิวกับฉันว่า "มีเบอร์แท็กซี่ไหม เพื่อที่ฉันจะได้เรียกแท็กซี่?" สุภาพสตรีผู้ใจดีคนหนึ่ง จึงหลุดจากคิว แล้วพูดว่า "ที่นั่น มีร้านค้าแห่งหนึ่ง ข้างในคุณมีโทรศัพท์ฟรี สำหรับเรียกแท็กซี่” […] เธอยังแสดง วิธีโทรให้ฉันดูด้วยว่า "แค่หยิบมันขึ้นมา แล้วจะมีคนคุยกับท่าน แล้วท่านบอกว่า ท่านต้องการแท็กซี่ แล้วท่านบอก พวกเขาว่าท่านอยู่ที่ไหน แล้วพวกเขาจะมา” ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันอยู่ที่ไหน ฉันก็เลยบอกว่า "ร้าน" และพวกเขากล่าวว่า "เรามีร้านแบบนั้นเยอะมาก งั้นท่านต้องบอกที่อยู่มา” เลยให้พนักงานร้าน เข้ามาคุยกับ (คนขับ) แท็กซี่ ฉันเป็น “คนแปลกหน้า ในดินแดนอียิปต์” พวกเขาจึงช่วยฉันและ ฉันก็ขึ้นแท็กซี่

แล้วต่อมา ฉันได้ห้องพักโรงแรมแล้ว ขนาดเล็ก ราคาถูก ฉันไปแลกเงิน แล้วฉันก็รู้สึกปลอดภัย แต่แล้วทางโรงแรมก็ถามฉัน หลายสิ่งหลายอย่าง - ไม่ใช่แค่หนังสือเดินทาง แต่เป็นใบขับขี่ - พระเจ้ารู้ ฉันไม่มี แล้วก็บัตรเครดิต- ฉันไม่เต็มใจที่จะให้ เพราะมันไม่ใช่ชื่อของฉัน - ฉันยืมมา โอ้ ชีวิตฉันไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น คุณคิดว่ามันเป็น - มันไม่ใช่ ฉันคิดแล้วชีวิตของฉัน เป็นเรื่องง่าย – มันไม่ใช่ ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถพัก ที่โรงแรมนั้นได้เพราะฉัน ไม่ "น่าเชื่อถือ" เพียงพอ พวกเขาไม่เชื่อในใบหน้าของคุณ คำพูดของคุณ หรือรูปลักษณ์ของคุณ ไม่ว่าคุณจะดูอ่อนโยนแค่ไหน หรือคุณพูดนุ่มนวลแค่ไหน พวกเขาเชื่อ ในบัตรเครดิตที่พิมพ์ออกมา ยกตัวอย่าง เช่นนั้น ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถพัก ที่โรงแรมนั้นได้ ฉันต้องออกไปตอนกลางคืนด้วย แท็กซี่ เพราะฉันไม่รู้ว่า ทำอะไรอีกได้ - ไม่มีร้านค้า ไม่มีรถไฟอีกต่อไป ไม่มีรถประจำทางอีกต่อไปแล้ว

ฉันนั่งแท็กซี่จากลอนดอน ไปยังที่ที่ฉันควรจะไป ประมาณสองชั่วโมง และคนขับแท็กซี่ก็เป็นมุสลิม เขาบอกฉันว่าเขาเป็นมุสลิม ดี ดี ฉันจึงทักทายเขาด้วย พระนามของอัลลอฮ์ แต่เขาอาจจะมีช่วงเวลา ที่ไม่ดีกับภรรยาหรือ อะไรสักอย่างที่บ้าน เขาพูดจารุนแรงกับฉันตลอดทาง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แค่พูดอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนแนว เขาพูดถึงว่าเขา ไม่อยากกินสิ่งนี้และ นั่นเพราะอาการแพ้ ฉันเลยพูดว่า "โอ้ คุณเกือบจะเหมือนวีแกนเลย" เขาพูดว่า "ไม่ ฉันไม่ใช่วีแกน ฉันแค่กินสิ่งนั้นและนี่ เพราะมันไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ฉันดื่มนมอัลมอนด์และ นมปราศจากแลคโตส" ฉันพูดว่า "โอ้ ฉันรู้ ฉันรู้ เนื่องจากฉันเป็นวีแกน ฉันจึง ดื่มสิ่งนี้และนมวีแกนนั้น ฉันไม่ดื่มนมแลคโตส”

และเมื่อเราแวะที่ ร้านค้าเพราะเขาต้องการ เติมน้ำมันในรถ ฉันก็ เข้าไปซื้อของมากมายให้เขา วีแกนทั้งหมด ทั้งบิสกิต เค้กวีแกน และนมวีแกน ประเภทต่าง ๆ ให้ลองชิม แล้วเขาก็เริ่มพูด รุนแรงกับฉันอีกครั้ง เขาแย่งของทั้งหมด จากมือของฉันแล้ว โยนกลับบนชั้นวาง ฉันพูดว่า "แต่ทำไม? ฉันจะจ่ายให้” เขาบอกว่า "ไม่ ไม่ ไม่! ฉันไม่ต้องการ! ฉันไม่ต้องการ! ฉันไม่ต้องการ!” เขารุนแรงมาก เขาคงมีปัญหาทางร่างกาย หรืออะไรบางอย่าง หรืออาจจะเป็นช่วงดึก แล้วเขาไม่เต็มใจ พาฉันไปไกลขนาดนั้น แต่ก็ต้องไปเพราะ เขาติดเวร เขาอยู่ในคิวที่จะรับ ลูกค้าดังนั้นเขาจึงต้องทำ ฉันขอโทษอย่างมาก ไปตลอดทาง ฉันพูดว่า "ขอโทษ ขอโทษ นี่มันดึกแล้วและ ฉันจะชดเชยให้คุณ ฉันจะจ่ายมากกว่าที่คุณขอ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน และนี่เอาบางส่วนก่อน ที่นี่ มันคือ 50 ปอนด์สำหรับคุณ ได้โปรดนั่นสำหรับคุณคนเดียวก่อน แล้วค่อยจ่ายเพิ่ม โอเคไหม?" แล้วเขาก็พูดว่า "ไม่ ไม่ คุณเก็บมันไว้ จ่ายทั้งหมดรวมกันทีหลัง - ก็ไม่เป็นไร”

เขาไม่ได้เกี่ยวกับการรับเงิน หรือพยายามสร้างปัญหา ตอนนั้นเขากำลัง ประสบปัญหาบางอย่าง จากนั้น ฉันได้พูดคุยกับเขา เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันรู้ เกี่ยวกับหะดีษและอัลกุรอาน จากนั้นเขาก็เริ่มชอบมัน งั้นเราก็โอเค เราเป็นเพื่อนกัน จนนาทีสุดท้าย แล้วฉันก็ไปใน ที่ที่ฉันควรจะไป แล้วฉันก็พูดว่า "กรุณาหยุดที่นี่ หน้าร้านอาหารวีแกนนั้นด้วย" ฉันจำเป็นต้องกินอะไรบางอย่าง" นอกจากนี้ฉันไม่อยากให้เขารู้ ว่าฉันกำลังจะไปไหนต่อไป ฉันมักจะเปลี่ยนแท็กซี่กลางทาง เพื่อความปลอดภัยของฉัน นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังคิด ยังไงมันก็ปลอดภัย เป็นประเทศที่ปลอดภัย แต่ฉันก็พยายาม ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่เสมอ เพราะว่าฉันมักจะเดินทางคนเดียว อย่างไรก็ตาม ฉันก็เลยเข้าไป ในร้านอาหารและ สั่งอาหารวีแกน จากนั้นฉันก็เรียก แท็กซี่และไปที่อื่น

บางครั้งฉันแค่หยุด การบันทึกและบันทึกอีกครั้ง ดังนั้น เสียงของฉัน จึงไม่ตรงกับ เสียงก่อนหน้าเสมอไป หวังว่าท่านผู้ชมคงไม่ว่าอะไรนะ

เหตุผลที่เปลี่ยน แท็กซี่บ่อย ๆ ถ้าฉันต้องไปแท็กซี่ ก็เพราะว่าฉันมีน้ำใจ กับคนขับเป็นส่วนใหญ่ ฉันให้ทิปดี ๆ และ มีน้ำใจมากแก่พวกเขา หรือชวนพวกเขาไปทานอาหาร วีแกนที่ฉันสั่งจาก ร้านอาหาร แล้วฉันก็ซื้อ ให้พวกเขานำกลับบ้าน และพวกเขารู้ว่าฉันมีเงินแล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ฉันจึงเปลี่ยนแท็กซี่ และฉันมักจะหยุด ในที่ที่ปลอดภัยเสมอ แล้วบางทีฉันก็เดินไปใน ที่ที่ฉันต้องการไป หยุดที่หน้าโรงแรม หรือฉันขอแท็กซี่จาก โรงแรมอีกคัน คนขับแท็กซี่คนใหม่ เป็นต้น มันเป็นเพียงข้อควรระวัง เพิ่มเติมเพราะฉัน อยู่ในโลกคนเดียว และคุณก็รู้ว่าโลกนี้ ไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่าง และเป็นที่รักของทุกคน และฉันต้องดูแลตัวเองด้วย

ฉันเคยกลับมาไต้หวัน (ฟอร์โมซา) หรือ ที่อื่นบ้างเป็นบางครั้ง และบอกคนอื่นล่วงหน้า ให้มารับฉันด้วยรถ หรืออะไรสักอย่าง แต่ต่อมาฉันไม่ต้องการอีกต่อไป เพราะ ยกตัวอย่าง คนไต้หวัน (ฟอร์โมซา) จะมากันหมด และ สนามบินก็แน่นมาก ไม่อยากรบกวน การเดินทางของคนอื่น และไม่อยากให้ใคร มาขัดขวางคนอื่นแต่อย่างใด พวกเขาก็นำ เก้าอี้แบบเกี้ยว แล้วจับฉัน วางไว้บนเก้าอี้ตัวนั้น และอุ้มฉันไปด้วยคนสี่คน - สองคนข้างหน้า สองคนข้างหลัง -บนไหล่ของพวกเขา เพื่อให้ทุกคนมองเห็นได้ โอ้ พระเจ้า มันเป็น อะไรที่ท้าทายจริง ๆ และฉันก็เขินอายมาก หลังจากนั้นไม่นานฉัน ก็ไม่กล้าบอกให้ใครรู้ ว่าฉันกำลังจะกลับมา หรือจะออกไปไหนเลย ฉันแค่วิ่งหนี

แม้ว่าฉันจะไปรอบ ๆ ทัวร์ยุโรป - จำทัวร์ยุโรปในช่วงสงคราม ตามคำเชิญของพี่สาว คนหนึ่งของคุณ ขอร้องให้ฉันมาหยุด สงครามในครั้งนั้น - ฉันไปคนเดียวพร้อม กระเป๋าเดินทางธรรมดา ๆ และฉันก็ไม่กล้าขึ้นรถ ของลูกศิษย์คนใดหรือไปกับ พวกเขาหรืออะไรทั้งนั้น ฉันไปคนเดียวหมด และเมื่อเห็นพวกเขาเดิน เข้ามาหาฉัน ฉันก็รีบวิ่งไปที่อื่นทันที ครั้งหนึ่ง จำไว้ว่า ฉันบอกคุณแล้วว่า ในสโลวีเนีย ไม่มีแท็กซี่อีกแล้ว และลูกศิษย์ทุกคนเห็นฉัน เพราะพวกเขาจะ ฟังการบรรยายของฉัน ระหว่างทัวร์ พวกเขาติดตามฉันไปทุกที่ ในเวลานั้นไปยังประเทศต่าง ๆ แต่ฉันก็ไปคนเดียวตลอด พวกเขาเห็นฉันแล้วพูดว่า "โอ้ อาจารย์ อาจารย์ มานี่ เรามีรถ" ไม่ ฉันไม่กล้า เพราะทุกคนจะต้องมา ถ้าฉันไปที่นั่น อยู่ที่นั่น รอรถของพวกเขา แล้วทุกคนอื่นก็จะมา และคงจะวุ่นวาย ที่สนามบิน

ฉันก็เลยไปซ่อนตัว อยู่ในรถเช่าคันหนึ่ง และรถคันเดียวที่ฉันสามารถเช่าได้ ในขณะนั้น ฉันบอกคุณแล้วว่ารถเกียร์ธรรมดา ฉันไม่เคยขับรถเกียร์ธรรมดา มาก่อนเลยในชีวิต และแล้วก็ถึงนาทีสุดท้าย ของร้าน ชายคนนั้นกระตือรือร้นมาก ที่จะปิดร้านเพื่อกลับบ้าน และเขาก็บอกฉันว่า "คุณทำสิ่งนี้ ทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนั้น แล้วรถจะไป” ฉันพูดว่า "ได้โปรด ไม่ ฉันไม่เคย ขับรถแบบนี้มาก่อน" เขาพูดว่าว่า “ท่านจะทราบ” ยังไง? เพราะในยุโรป ฉันเห็นรถหลายคันเป็น แค่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น ดังนั้น เขาทึกทักไป ว่าฉันจะรู้ ว่าฉันแค่ แกล้งทำไม่เป็นกับเขา ชะลอเขาจากการกลับบ้าน ไปหาภรรยาและลูก ๆ และกินข้าวเย็น ฉันพูดว่า "ไม่ ฉันไม่รู้จริง ๆ โปรดแสดงให้ฉันเห็นที” เขาพูดว่า “คุณจะรู้วิธี แค่ทำมัน เพียงแค่ขับรถ คุณกดแก๊สแล้วคุณกด ... " ฉันลืมแม้กระทั่งสิ่งที่เขาบอกฉัน และตอนนี้ถ้าคุณบอกให้ ฉันขับรถเกียร์ธรรมดา ฉันก็จะไม่รู้อีกต่อไป

ตอนนั้น ฉันขับรถจากสนามบินไป เมืองหลวงและ รถก็จอดหลายครั้ง ฉันต้องหยุด เขียนลงบน กระดาษแผ่นใหญ่แล้วติดเทป แล้ววางไว้ที่หน้าต่างกระจก ด้านหลัง: "มือใหม่! โปรดระวัง!" แล้วคนที่ขับรถผ่านมาก็ เห็นฉัน "กะชุม กะชุม" รถเกือบจะหยุด หรือไม่อยากไป พวกเขามองมาที่ฉัน ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร ผู้คนที่นั่นใจดีและใจดีมาก พวกเขาเข้าใจ พวกเขาแค่เลี่ยงรถของฉันไป และฉันกำลังอธิษฐาน ตลอดเวลา: "ได้โปรด ปล่อยให้รถวิ่งต่อไป" และฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร - หยุด สตาร์ท หยุด สตาร์ท "คาชุม คาชุม คาชุม" ครึ่งหยุด ครึ่งสตาร์ท ทั้งหมดนี้... และฉันก็ ไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่ไหน สักแห่งบนมอเตอร์เวย์สายนั้น แล้วฉันเข้าไปให้พนักงาน โรงแรมดูแลรถคันนั้น โทรหาบริษัทนั้นให้มารับ พรุ่งนี้หรือเมื่อไรก็ได้ “ช่วยบอกฉันทีว่าฉันสามารถ เรียกแท็กซี่ไปเมืองหลวงได้ไหม” พวกเขาก็เลยจัดการทุกอย่างให้ เพราะต้องรีบไปจึงไม่สามารถ "กะชุม กะปอม" กับรถคันนั้นได้อีกต่อไป มันอันตรายและ ฉันจะล่าช้านานเกินไป เพราะตอนนั้นทุก ๆ สองวัน จะเป็นการบรรยาย ที่ประเทศหนึ่ง คุณจำเรื่องนั้นได้นะ? ทุกสองวันฉัน ต้องไปต่างประเทศ ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถเล่นกับรถคันนั้นได้

โชคดีที่สวรรค์ปกป้อง เทวดามาช่วยฉัน และฉันก็ไปถึงโรงแรม และจัดการเรื่องนั้น และพวกเขาพูดว่า "โอ้ ค่าแท็กซี่ไป เมืองหลวงแพงมาก" ฉันพูดว่า "ไม่ ไม่ ฉันไม่สนใจ" ได้โปรด ได้โปรด ฉันมีเงินจ่าย” แน่นอนว่า เมื่อฉัน ออกเดินทาง ฉันก็ เตรียมเงินสดและ บัตรเครดิตไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ฉันก็เลยพูดว่า "ไม่เป็นไร ฉันมีเงิน" นั่นเป็นสาเหตุที่ ฉันต้องเปลี่ยน แท็กซี่ทุกครั้งที่ เป็นไปได้ เพราะผู้คน จะรู้ว่าฉันมีเงิน เพราะบางครั้งพวกเขา ก็ไม่อยากพาฉันไป พวกเขากังวลว่า ระยะทางจะไกลเกินไป และฉันมีเงินหรือไม่ และฉันก็เป็นคนแปลกหน้า ฉันไม่ใช่คนยุโรป เรื่องแบบนั้น การต้องอยู่บนท้องถนน ด้วยตัวเองเป็นเรื่อง ยากมาก และคุณต้อง ป้องกันตัวเองด้วย และคุณต้อง โน้มน้าวผู้คนว่าคุณมีเงิน คุณมีเงินระยะยาว ตอนนี้ฉันจำได้ทั้งหมดแล้ว มันเหมือนกับเรื่องราวของฮอลลีวู้ด

Photo Caption: นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของคุณด้วยความรัก เพื่อให้ผู้อื่นรู้สึกยินดี!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (6/7)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์