ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) ใน ผลกระทบที่เป็นอันตรายของเนื้อสัตว์ ตอนที่ 16 - การบิดเบือนคำสอน ของเหล่านักบุญ

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ในตอนก่อนหน้านี้ เหล่านักบุญ และอาจารย์ผู้รู้แจ้งทั้งหมด สอนหลักคำสอนเดียวกัน ของ “การไม่ฆ่า” เพราะพวกเขาเป็นร่าง ของความรักและความเมตตา อย่างไรก็ตาม มันได้ถูกบันทึกไว้ ในคัมภีร์ของศาสนาพุทธว่า พระศากยมุนีพุทธเจ้าที่เคารพ กินอาหารประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า “เท้าหมู” ในคัมภีร์ไบเบิลศักดิ์สิทธิ์ มันกล่าวว่าพระเยซูคริสต์ ให้อาหารคน 5,000 คน ด้วยขนมปัง 5 แถว และปลา 2 ตัว หลังจากการแปล หลายพันปีผ่านไป จากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่ง มันอาจจะมี การแปลผิดบางอย่าง ของคัมภีร์โบราณ ในการบรรยายที่รู้แจ้งหลายครั้ง ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ได้ช่วยให้ความกระจ่าง แก่ความเข้าใจผิดส่วนมาก เกี่ยวกับการกินอาหารของนักบุญ และศาสดาเหล่านี้

ในอิตาลี พวกเขามีเห็ดอร่อยประเภทหนึ่ง ของหมู จำได้ไหม? ทรัฟเฟิล มันซ่อนอยู่ใต้ดินและ หมูก็มักจะขุดมันขึ้นมากิน เวลาพวกเขาดมหามัน พวกเขาขุดมันขึ้นมาด้วยเท้า แล้วคนก็ตามไป แล้วขุดเห็ดออกมา แล้วขายมัน พวกมันแพงมาก ดังนั้น พระพุทธเจ้าเสวยมัน แน่นอน มีคนถวายให้พระองค์ เป็นอาหารหายาก พวกเขาเรียกว่า “ความสุขของหมู” หรือ “เท้าหมู” เพราะเรื่องนั้น เพราะหมู ที่สามารถดม และขุดมันขึ้นมาให้คน ดังนั้นพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ที่น่าสงสาร ไม่ได้กินหมูใด ๆ แต่กิน “เท้าหมู” ใหญ่ ๆ โอ้ พระเจ้าที่รัก

(พระเยซูเป็นมังสวิรัติไหม?) พระเยซูที่น่าสงสาร ทุกคนพยายามใส่เนื้อสัตว์ หรือปลาในปากของพระองค์ ท่านเป็นมังสวิรัติบริสุทธิ์ ท่านมาจากประเพณีเอสซีน และเอสซีนเป็นมังสวิรัติ ตลอดเวลา และมันมีหนังสือที่แปลไว้ จากแอราเมอิก โดยเอ็ดมันด์ บอร์โดซ์ เซคลี เขาเป็นชาวฮังการี จากคัมภีร์โบราณ ที่ถูกพบ ในที่เก็บของวาติกัน เชื่อว่า เป็นคำสอนของพระเยซู ในนั้น พระเยซูสอน ลูกศิษย์ของพระองค์ว่าไม่ควร กินเนื้อสัตว์เลย ไม่เลย ตอนนี้ คัมภีร์ไบเบิลปัจจุบัน ถูกแปลมาจาก ของกรีกโบราณ (โอเค) พระเยซูให้อาหารคนกลุ่มใหญ่ด้วย ขนมปังกับ โอพซารัม โอพซารัม สามารถแปลได้ ว่าเป็นเครื่องปรุง (ใช่) เครื่องปรุง หรือปลา ดังนั้น มันเป็นไปได้ที่จะพูดว่า พระองค์ให้อาหารเป็นขนมปัง และเครื่องเคียง ปรุงรส (เข้าใจ)

ถ้าพระเยซูจะเสวยปลา ทำไมพระองค์ถึงบอกลูกศิษย์ 12 คนแรกให้เลิกตกปลา แล้วติดตามพระองค์ ให้มาตกคน แทน? ติดตามพระองค์หมายถึง ไม่มีอะไรเลย (ใช่)

อาจารย์ผู้เมตตา อย่างพระเยซู ที่จะแบก ลูกแกะที่บาดเจ็บ อ่อนแอ ของคนแปลกหน้า ขึ้นภูเขา เพื่อที่ลูกแกะจะไม่ ถูกตี หรือถูกเตะ โดยคนเลี้ยงแกะ หรือถูกลากโดยคนเลี้ยงแกะ พระองค์จะกิน สิ่งมีชีวิตได้อย่างไร? มันขัดแย้งกัน มากเกินไป

ส่วนมากเอกสารทั้งหมดเหล่านี้ พบได้ ในม้วนหนังสือเดดซี ที่พวกเขาได้ค้นพบ ไม่นานมานี้ หลายปีก่อน แล้วพวกเขาได้พบ คำสอนยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ และพระเยซูอยู่ในกลุ่มนี้ “ด้วยความเคารพอย่างสูง ต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด พวกเขา ไม่เคยแตะอาหารที่มีเลือดเนื้อ...” พวกเขาไม่กินเนื้อสัตว์ เห็นไหม? ฉันหวังว่าชาวเอสซีนทั้งหมด ในชาตินี้ จะอ่านเรื่องนี้ และไม่กินเนื้อสัตว์ “หรือพวกเขาจะไม่ดื่ม ของเหลวหมัก” แปลว่า ไม่มีแอลกอฮอล์ เห็นไหม? ใช่

ฉันเพิ่งคิดว่า ศาสดาและอาจารย์ที่น่าสงสารทุกคน ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็ถูกทำร้าย ถูกลงโทษ หรือ ถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือถูกฆ่า ด้วยวิธีโหดร้ายต่าง ๆ แล้วหลังจากที่พวกเขาตายไป บ้างก็สร้างโบสถ์ใหญ่โตมาก และวัดใหญ่โต และ สุเหร่า อะไรก็ตาม แล้ว ก็ยังฆ่า ฆ่าชื่อของเขาหรือเธอ พูดว่าพระเยซูเสวยปลา และพระพุทธเจ้าเสวยเท้าหมู และศาสดามูฮัมหมัด บอกพวกเขาให้ฆ่า สิ่งต่าง ๆ มากมาย เศร้ามาก เศร้ามาก ทั้งหมด ในนาม ของเหล่าอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่เมตตามาก และกรุณามาก และให้อภัยมาก รักสัตว์ทั้งหมด แม้แต่นกตัวน้อย และแกะตัวผู้ ลูกแกะตัวน้อย พวกเขาต่างก็รักมันทั้งหมด พวกเขาจะบอกให้คนอื่น ออกไปฆ่าผู้อื่นได้อย่างไร ดังนัน ศาสดาทั้งหมด ได้ถูกเข้าใจผิดมาก มาก ๆ มาก ๆ มาก ๆ

ในศูรางคมสูตร พระศากยมุนีพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ถ้าเรา ผู้บำเพ็ญจิตวิญญาณ กินเนื้อของสิ่งมีชีวิตอื่น ระดับสูงสุด ที่เราจะได้คือระดับอสูร” มันไม่ใช่ว่าการกินเนื้อสัตว์ ทำให้เราเป็นมายา มันเพราะระดับของเราภายใน และความไวต่อความรู้สึกของเรา ที่เรามีค่าเพียงแค่ การเป็นมายา มันไม่ใช่ว่าการเป็น(วีแกน) ทำให้คน ๆ นั้นกลายเป็น พุทธะ และการกินเนื้อสัตว์ ทำใหคน ๆ นั้นกลายเป็นมายา ถ้าคน ๆ นั้นเอร็ดอร่อย กับเนื้อของสิ่งมีชีวิตอื่น มันหมายความว่าเขาไม่มี ความรักภายในเพียงพอ และนั่นคือเหตุผล ที่เขายังสามารถใช้ชีวิต่อไปอย่าง มีความสุข แม้ว่าเขายังกินเนื้อสัตว์ และนั่นคือเหตุผล ที่เขาไม่สามารถพัฒนาคุณสมบัติ พุทธะภายในได้อย่างเต็มที่ ถ้าเขาได้พัฒนาเต็มที่แล้ว คุณสมบัติพุทธะของเขา ก็ แน่นอน เขาจะรู้สึกถึงความทุกข์ทรมานได้ เพียงแค่มองดูเนื้อสัตว์เท่านั้น เขาจะรู้สึกถึงความทุกข์ร้อน ของสัตว์สิ่งมีชีวิต ดังนั้นเขาไม่กล้า และไม่อยากกินเนื้อสัตว์

เราต้องใช้ชีวิต ให้เหมาะสมกับบุตรของพระอัลล่าห์ สมมติว่าพระอัลล่าห์ จะมายังดาวเคราะห์ของเรา พระองค์จะทำยังไง? คิดดูว่าถ้าพระอัลล่าห์มาที่นี่ และฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เพื่อนมากิน แค่เพื่อรักษาร่างของ พระองค์ ให้อยู่ได้หนึ่งร้อยปี ไม่มากก็น้อย พระอัลล่าห์จะทำอย่างนั้นไหม? พระองค์จะทำไหม มาดาม? (ไม่ค่ะ อาจารย์) ไม่ เราไม่สามารถจินตนาการพระเจ้า หรือพระอัลล่าห์ผู้ยิ่งใหญ่ จะมาที่นี่แล้วฆ่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ ไร้เดียงสา ช่วยตัวเองไม่ได้ ไร้ทางต่อสู้ น่ารักเพื่อกิน ดังนั้น เราเป็นบุตรของพระเจ้า ศาสดาทุกคนบอกเราอย่างนั้น พระเยซูคริสต์บอกเราเช่นนั้น พระพุทธเจ้าบอกเราเช่นนั้น ศาสดามูฮัมหมัด สันติสุขจงมีแด่ท่าน บอกเราเช่นนั้น เราเป็นบุตร ของพระบิดาผู้ทรงเมตตา เราต้องเป็นเหมือนพระบิดาของเรา นี่มีเหตุมีผลมาก นั่นจะทำให้พระบิดาทรงโปรด ว่าเราเป็นเหมือนพระองค์ ว่าเรามีเมตตา ว่าเรามีความกรุณา ว่าเราอยู่อย่างปรองดอง กับกันและกัน พ่อทุกคนจะชอบ ที่ลูก ๆ ของพวกเขาเป็นอย่างนั้น เพื่อที่จะได้มีคุณค่าคู่ควร กับการเป็นบุตรของพระอัลล่าห์ บุตรของพระเจ้า เราต้องใช้ชีวิตในแบบ ที่พระบิดาของเราอยากให้เราใช้

ผู้สละทางโลกที่แท้จริง พวกเขาสามารถหลุดพ้น ถ้าพวกเขารักษาศีลดี กินแค่วันละครั้ง และไม่ใส่ผ้าไหม และไม่บริโภคนม หรือผลิตภัณฑ์สัตว์ใด ๆ คนที่เฝ้าดูย่างก้าวของพวกเขา ให้หลีกเลี่ยงที่จะทำร้ายแมลง เวลาพวกเขาเดิน ผู้ที่ฟังคำสอนและศีล ของพระพุทธเจ้าจริง ๆ พวกเขาสามารถได้รับการหลุดพ้น ไปเหนือโลกทั้งสาม ไม่จำเป็นต้องชั้นห้า ชาวพุทธ มีจำนวนมากที่สุด ที่ไปถึงระดับที่สี่ อาจจะเพราะ การกินอาหารมังสวิรัติและวีแกน และฮินดู ก็ยังมีบ้าง ศาสนาฮินดู พวกเขาเป็นสองศาสนา ที่มีมากที่สุด ศาสนาอื่นก็มีบ้างเช่นกัน

ระหว่างฌานของฉัน ฉันเห็นหลายสิ่งโดยบังเอิญ นั่นคือการที่ฉันรู้ว่าคนเหล่านั้น ที่รักษาการกินอาหารมังสวิรัติ/วีแกน และศีล จะได้รับการหลุดพ้น ฉันแค่เช็คเกี่ยวกับ พระและแม่ชี ฉันไม่ได้เช็คฆราวาส มันง่ายกว่าแน่นอน สำหรับพระและแม่ชี เพราะพวกเขาเป็นอิสระ ไร้กังวล และสิ่งกีดขวาง พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับใคร พวกเขาไม่ต้องอยู่กับผู้คน นั่นคือเหตุผลที่มันง่ายกว่า สำหรับพวกเขาที่จะรักษา สนามพลังแม่เหล็กของพวกเขา รักษาการกินอาหารมังสวิรัติ/วีแกน

เหตุใดคนอินเดีย จึงรู้แจ้งมากกว่า คนอื่น? ฉันก็สงสัยเช่นกัน ใช่ แล้วฉันก็ได้คำตอบ พระเจ้าบอกฉัน “เพราะพวกเขาทำตาม สิ่งที่เขาเทศน์ พวกเขาฝึกฝนอหิงสา พวกเขาฝึกการเป็นมังสวิรัติ พวกเขาฝึกตามคำอธิษฐาน พวกเขาฝึกทำสมาธิ พวกเขาฝึก การรับรู้อย่างต่อเนื่อง ว่าทุกสรรพสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน สิ่งใดที่ทำกับคนหนึ่ง คือกระทำกับคนอื่นทุกคน” แล้วฉันพูดว่า “ขอบคุณท่านมาก ๆ!” เมื่อเรามีคำถามจริงใจ พระเจ้าตอบเราเสมอ และนี่คือสิ่งที่ศาสนาฮินดู และปรัชญา ของมาตุภูมิของพวกเขา เป็นเช่นนั้น

อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลายคน ได้มาที่อินเดีย ก้มกราบมาตุภูมิของพวกเขา ขอร้องขอความรู้ และเพื่อที่จะไปพัฒนา ปัญญาของพวกเขาเอง พระเยซูได้มาที่นี่ พระพุทธเจ้าอยู่ที่นี่ อาจารย์ยิ่งใหญ่ท่านอื่นหลายท่าน ได้เกิดที่นี่ เช่นกูรูซิกข์ และกูรูฮินดู ศตวรรษแล้วศตวรรษเล่า พวกเขาได้เสียสละ ทุกอย่างเพื่อเตือนเรา ถึงอุดมคติอันสูงส่งนี้ของอหิงสา ของความรักความเมตตา เพราะพระเจ้าคือความรัก ถ้าเราต้องการเป็นพระเจ้า เราต้องเป็น ตัวแทนของความรัก
รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (16/20)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์