คุณไม่สามารถคาดหวังทุกสิ่ง แต่ไม่ยอมทำอะไรเลย (ค่ะ อาจารย์) และคุณ ไม่ต้องให้อะไรเลย! แค่อย่าเอาจากคนอื่น อย่าเอาชีวิตจากสัตว์ทั้งหลาย (ค่ะ อาจารย์) เป็นทางออกที่ง่ายมาก! หากคุณฆ่าเอาชีวิต คุณอย่าหวังว่าจะได้ชีวิตกลับคืนมา “ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น” นี่คือกฎแห่งกรรม ที่เราฝ่าฝืนไม่ได้
( มีการค้นพบ ไวรัสหมูตัวใหม่ เรียกว่า G4 EA H1N1 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า จีโฟร์ ไวรัสนี้จะพัฒนา เป็นโรคระบาดใหญ่ไหมคะ ? )
คุณรอดูได้ ฉันได้บอกไปแล้วว่า มีระเบิดเวลาหลายลูก สอง สามลูก ไม่ใช่ลูกเดียว (ค่ะ อาจารย์) และเพราะว่าตอนนี้ โควิด-19 กลายพันธุ์เป็นโรคระบาดอื่น ๆ เป็นเชื้อโรคตัวอื่น (ค่ะ อาจารย์) อาจยังไม่เป็นโรคระบาดใหญ่ แต่มันมีอยู่รอบตัวเราทั่วไป ดูสิว่ามากเท่าไหร่... คนมากกว่าหลายพันล้านคน ติดเชื้อไปแล้ว เราเหมือนกับว่ายอยู่ใน เชื้อโรคต่าง ๆ ในแบคทีเรีย ในไวรัส และเราอยู่ในอันตราย (ค่ะ อาจารย์) ทุกหนแห่ง คุณไม่มีทางรู้ ว่าคนที่คุณพบ คนที่เป็นพาหะโรค และถ่ายทอดมาให้คุณ แม้ว่าเขาดูไม่ป่วย แม้ว่าคน ๆ นั้น อาจดูไม่ป่วย แต่เขามีเชื้ออยู่และอาจถ่ายทอด มาให้คุณได้ทุกเวลา ทุกที่ คุณไม่รู้ตัว (ค่ะ อาจารย์)
พี่ชายของเราคนหนึ่ง ออกไปหาทันตแพทย์ ฉันจำเป็นต้อง กักตัวเขาเป็นเวลาสามสัปดาห์ ฉันเขียนบอกไปแล้ว คุณบางคนคงได้อ่านแล้ว (ค่ะ เราอ่านแล้วค่ะอาจารย์) และคนที่ช่วยฉัน ฉันพูดเหมือน ๆ กันกับทุกคน หากคุณออกจากกลุ่มไป (ค่ะ) เพราะคุณ อยู่ในฟองอากาศตอนนี้ (ค่ะ อาจารย์) บอกคนในครัวด้วย หากเขาออกไป เขากลับมาไม่ได้ (ค่ะ อาจารย์) (เราจะบอกพวกเขาค่ะ) เพราะหากเขากลับมา เขาต้องกักตัว อย่างน้อย สามสัปดาห์ (ค่ะ อาจารย์) ดังนั้น ทุกคนไม่ควรออกไป หากไม่จำเป็นจริง ๆ (ค่ะ อาจารย์) คนที่ทำงานในครัว ไม่ควรออกไป พวกคุณได้รับการคุ้มกัน อยู่ในบริเวณของคุณ (ค่ะ) แต่หากคุณออกไป แน่นอน กลับมา คุณต้องอาบน้ำทันที ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซักล้างฆ่าเชื้อเสื้อผ้าของคุณ ฯลฯ (ค่ะ อาจารย์) ฉันบอกให้คุณใส่แว่นตากันลม ตอนออกไปหรือเปล่า ? ฉันบอกแล้ว (ค่ะ อาจารย์) ดีแล้ว
ยังมีเชื้อโรคอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ปรากฏอยู่ขณะนี้ (ค่ะ อาจารย์) ฉันเห็นใน โทรทัศน์ [สุพรีมมาสเตอร์] ที่เยเมน อหิวาตกโรค และอะไรอีกนะ ? อีโบลาใช่ไหม ? (ใช่ค่ะ) มันกลับมาใหม่ (ใช่ค่ะ อาจารย์) และหัด ในที่ไหนสักแห่ง ฯลฯ คุณเห็นแล้วว่า เพราะพลังงานของโควิด-19 อากาศจึงมีพิษ และคนเป็นพาหะ พาโรคไปทั่ว (ค่ะ) ระบบคุ้มกันของผู้คน ก็กระทบไปด้วย แม้ว่าพวกเขา ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 (ค่ะ อาจารย์) ดังนั้นหากพวกเขา ได้รับเชื้อโรคอื่น ๆ ที่ปกติรักษาหาย ก็อาจเกิดรักษาไม่ได้ (โอ วาว) เพราะ ภูมิคุ้มกัน บกพร่องไป
ดังนั้น เหตุนี้ฉันจึงย้ำ กับพวกคุณ และลูกศิษย์ทั้งหลาย ในการประชุมเหล่านี้ ให้พวกเขา ระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น และป้องกันตัวเองมากกว่าเดิม ด้วยบุญทางจิตวิญญาณ (ค่ะ อาจารย์) ด้วยการภาวนา และการทำสมาธิ อีกมีความบริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา และใจ นี่เป็นการคุ้มครองที่แท้จริง มิฉะนั้น ผู้คนต่าง ๆ รวมทั้งที่ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของฉัน ยังไม่มีความรักเพียงพอ ไม่มีบุญกุศลเพียงพอ ที่จะคุ้มครองตนเอง (โอ เข้าใจละค่ะ) จึงต้องขอยืม จากพลังอาจารย์ พลังเบื้องบนที่สูงกว่า และอธิษฐานให้มากทุกวัน ต้องทำสมาธิให้มาก มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ค่ะ อาจารย์) เพื่อเชื่อมโยงตัวคุณ กับพระเจ้าอยู่เสมอ เราจึงจะไม่ประสบ ปัญหาเพิ่มขึ้น (ค่ะ อาจารย์) มีคำถามอีกไหม ที่รัก? มีคำถามอีกกี่ข้อ ? ฉันได้ยินว่าคุณมีหลายข้อ (ค่ะ มีหลายข้อเลยค่ะ) โอเค ถามฉันเลย
( อาจารย์คะ ก็อดเสสบอกว่า ครั้งนี้เป็นการพิพากษาครั้งสุดท้าย มีเวลาเหลือ อีกเท่าไรค่ะ ? หมายความว่า ต้องเป็นวีแกนทุกคน ในช่วงเวลานี้หรือคะ ? และหากบางคน ไม่เป็นวีแกน พวกเขาจะตายเพราะโรคระบาด หรือภัยพิบัติ หรือตกนรก หากไม่สำนึกหรือคะ ? )
ช่วงเวลาผ่อนผัน หมดไปนานแล้ว ฉันเพียงอ้อนวอนต่อสวรรค์ ให้ผ่อนผันอีกสักหน่อย เพราะมนุษย์ถูกพิษ โดนล่อลวงให้หลงทาง ถูกล้างสมอง ด้วยอิทธิพลที่เลวร้าย ของมายา หรือจากปีศาจก่อกวน พวกเขากลับตัวได้ตลอดเวลา และฉันจะคอยอยู่ข้าง ๆ หากพวกเขาสามารถกลับตัวได้ แน่นอน พวกเขาจะได้รับการคุ้มครองยิ่งขึ้น แต่ขึ้นกับ บุญกุศลที่เขามีอยู่ด้วย (ค่ะ อาจารย์) เมื่อรวมกับ กุศลในชาติที่แล้ว และความจริงใจของพวกเขา และการอธิษฐานอย่างเจียมตน และสำนึก ก็ช่วยได้อยู่บ้าง (ค่ะ อาจารย์) อย่างน้อย หากติดโรคระบาด ก็ไม่รุนแรงนัก มีอาการเล็กน้อย และหากเขาเกิดตาย ฉันก็หาข้ออ้างเพื่อช่วย ให้วิญญาณของเขาขึ้นสวรรค์ (ค่ะ อาจารย์)
( อาจารย์คะ ดังนั้นคำทำนาย อย่างเช่นของเอาหลัก (เวียดนาม) และของที่อื่น ๆ ที่ทำนายว่า ระหว่างช่วงการพิพากษาครั้งสุดท้าย จะเกิดภัยพิบัติ โรคใหม่ ๆ หนึ่งในสิบ หรือสองในสิบ ของผู้มีคุณธรรมจะอยู่รอด จริงหรือไม่คะอาจารย์ ? เพราะเรามีศรัทธา ด้วยพระพรของอาจารย์ จะไม่เกิดสิ่งเลวร้ายขนาดนั้น )
ฉันสามารถให้พร เฉพาะคนที่เชื่อฟัง คนที่ร่วมมือ หากหมอสั่งยาให้คนไข้ แต่คนไข้ ไม่กินยา ผลจะเป็นเช่นไร ? คุณจะโทษหมอ ที่ไม่พยายามอย่างที่สุดหรือ ? (ไม่ค่ะ อาจารย์) ใช่แล้ว! คุณไม่สามารถคาดหวังทุกสิ่ง แต่ไม่ยอมทำอะไรเลย (ค่ะ อาจารย์) และคุณ ไม่ต้องให้อะไรเลย! แค่อย่าเอาจากคนอื่น อย่าเอาชีวิตจากสัตว์ทั้งหลาย (ค่ะ อาจารย์) เป็นทางออกที่ง่ายมาก! หากคุณฆ่าเอาชีวิต คุณอย่าหวังว่าจะได้ชีวิตกลับคืนมา “ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น” นี่คือกฎแห่งกรรม ที่เราฝ่าฝืนไม่ได้ (ค่ะ อาจารย์) หากเขายังกินแต่สิ่งที่เป็นพิษ และหมอก็บอกแล้ว “อย่ากินอีก อย่างน้อยหยุดกินสิ่งเป็นพิษ แล้วฉันจึงสามารถรักษาคุณได้” แต่พวกเขายังคงกินสิ่งเป็นพิษ คนไข้จึงเสียชีวิต หรือไม่ก็ทุกข์ทรมาน ดังนั้นอย่าหวัง ให้ฉันทำทุกอย่าง แต่ไม่มีใครทำอะไรเลย มันไม่ใช่แบบนี้ (ค่ะ อาจารย์) ถึงกระนั้นเราต้องให้ ความยุติธรรมกับสัตว์ต่าง ๆ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาถูกทรมาน พวกเขาถูก โอ พระเจ้า เหมือนในนรก ก่อนที่เขาจะตาย (ค่ะ อาจารย์) คุณเห็นทั้งหมดแล้วใน โทรทัศน์ [สุพรีมมาสเตอร์] ของเรา และในเน็ตฟลิกซ์ (ค่ะ) และภาพยนตร์ทั้งหลาย ที่เราประกาศไป เราผู้เป็นมนุษย์ ที่แข็งแรง ฉลาด และมีทางเลือก ทำไมจึงรังแกผู้ที่อ่อนแอ ไร้ทางสู้เช่นนั้น และหวังในความกรุณาหรือ ?! ฉันบอกพวกเขาให้สำนึก และกลับตัว (ค่ะ อาจารย์) นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องทำ ฉันไม่ได้ขออะไรมากมาย (ค่ะ อาจารย์) แล้วฉันจึงจะช่วยพวกเขาได้
แน่ล่ะ ฉันให้พร คนที่สำนึกและ กลับตัวกลับใจสู่ชีวิตที่มีเมตตาได้ ฉันสามารถให้พรจากพระคุณ พระกรุณาธิคุณของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ฉันบอกพวกคุณแล้ว ว่าฉันได้ช่วยวิญญาณ ผู้ที่สำนึก แม้ว่าพวกเขาต้องตาย เพื่อชดใช้บาปของเขา ฉันช่วยเขา หากใจเขาสำนึก หากพวกเขา เคยเห็นรูปภาพของฉัน หรือวิดีโอ หรือการบรรยายของฉัน และมีความนับถือ หรือเชื่อฉันอยู่บ้าง คนเหล่านี้ ฉันสามารถช่วยได้ แต่หากพวกเขาไม่ฟัง เขายังใช้ชีวิตเช่นเดิม อย่าขอให้ฉัน ช่วยพวกเขาอีก... พระพรของอาจารย์... พรมากมาย-เปล่าประโยชน์ สำหรับคนเหล่านี้ ไม่มีทาง หากเขาไม่เปลี่ยน พวกคุณเข้าใจไหม? (ค่ะ อาจารย์)
ทุกคนถามฉันตลอด พวกคุณ และพี่ชายของคุณด้วย ถามฉันเสมอว่า “อาจารย์ให้พร แล้วทุกอย่างจะดีเองไหม ?” ทุกอย่างจะดีได้อย่างไร ? แล้วสัตว์ต่าง ๆ ล่ะ ? พวกเขาทรมาน ไม่ใช่หรือ ? (ค่ะ) เช่นนั้น อย่าหวังอะไรอีกจากฉัน หรือจากใครก็ตาม หรือจากสวรรค์ นรกเป็นที่เดียว สำหรับคนเหล่านี้ เพราะพวกเขาปิดตา มองดูความทุกข์ยาก และสนุกกับ ความเจ็บปวดทรมานของผู้อื่น (ค่ะ อาจารย์) เอาแต่นั่งเฉย ๆ กินเนื้อ ดื่มไวน์ ทรมานสัตว์ และผู้อื่น แล้วหวังว่าฉันจะให้พรพวกเขาหรือ ? คุณถามคำถามเหล่านี้กับฉัน ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ฉันไม่ต้องการได้ยินอีกแล้ว (ค่ะ อาจารย์) เพราะมันไม่ใช่ คำถามที่สมเหตุสมผล เป็นการใช้พลังของสวรรค์ และ ความรักของพระเจ้าในทางที่ผิด หากคุณต้องการเรียนภาษาอังกฤษ กับศาสตราจารย์ คุณก็ต้องทำการบ้าน (ค่ะ อาจารย์) คุณจะหวังในศาสตราจารย์ เพราะ ความรู้ที่แตกฉานของเขา จะทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษ เข้าใจภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะคุณไม่เรียนเอง ไม่ฝึกฝน ไม่พูด ไม่ทำการบ้าน คุณเข้าใจไหม ? (ค่ะ อาจารย์) มันทำให้ฉันโกรธ คำถามทำนองนี้ เหมือนกับ ทุกคนนั่งเฉย ๆ เอาแต่รอให้ใครสักคน ทำทุกอย่างให้ คำถามนี้ สถานการณ์เดียวกัน ประธานาธิบดีคนหนึ่ง เขาได้รับเลือก และมีชื่อเสียง ด้านความเมตตา และให้อภัย และคาดหวังให้เขา ยกเลิกกฎหมาย และทุกคนทำได้ตามใจชอบ คนนี่ฆ่าคนนั้น ไม่เป็นไร และอีกคนทำร้ายเด็กหญิงเล็ก ๆ ก็ไม่เป็นไร ทุกคนทำตามใจชอบ คนแข็งแรงกว่า ข่มเหงคนอ่อนแอกว่า และขอให้ประธานาธิบดี ลบข้อหา ทางอาชญากรรมทั้งหมด ยกโทษให้ทุกคน เช่นนี้แล้ว ก็ไม่ยุติธรรมกับผู้เสียหาย นี่คือทำไม ฉันไม่อยากตอบ คำถามเหล่านี้อีกแล้ว เพราะมันไร้สาระ และผิดทำนองคลองธรรม ผู้คนคิดกันแบบนั้น พวกเขาทำตามใจชอบ และหวังให้ประธานาธิบดี สร้างปาฏิหาริย์ให้พวกเขา หรือขอให้อาจารย์เสก แล้วทุกอย่างก็ดีดังเดิม
พวกคุณอยากให้ฉันทำอะไร ? อยากให้สละชีพ เหมือนพระเยซู และอาจารย์อื่นหรือ ? ให้ฉันอยู่ ๆ ตายไป หรืออย่างไร ? และอาจมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เพราะการตายของฉัน เป็นการล้างบาปให้พวกเขาหรือ ? อย่าฝันไปเลย ดูอาจารย์ทั้งหลายซิ พวกเขาตายอย่างทรมาน พระพุทธเจ้า ทรงถูกลอบสังหาร หลายครั้ง พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ อย่างทรมาน บนไม้กางเขน แม้ว่าพระองค์ได้รับการรักษา กลับคืนสู่ชีวิตปกติอีกครั้งก็ตาม แต่นี่ไม่เป็นการถูกต้อง ที่มนุษย์ควรกระทำต่อ ผู้บริสุทธิ์เช่นพระเยซู และหาก พระองค์ทรงสิ้นชีพ เพื่อพยายามล้างบาปให้ผู้คน แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว อาจเฉพาะลูกศิษย์ พระญาติ หรือมิตรของพระองค์ ห้า หก ชั่วโคตร แต่ผู้คนก็ยังคง กินเนื้อ ดื่มไวน์ การสละชีพของพระองค์ ไม่เกิดผลที่ถาวร และจะมีประโยชน์อะไรกัน ? ไม่มีประโยชน์มากนัก พวกเขาสร้างอาณาจักรขึ้น สร้างโบสถ์ใหญ่โต และถวายการบูชาต่อรูปปั้นพระองค์ แต่ขณะที่พระองค์ยังทรงพระชนม์ พวกเขากลับตรึงพระองค์บนกางเขน ดูมนุษย์ซิ พวกเขาทำอะไรบ้าง ? ก็ยังคงกินเนื้อ ดื่มไวน์ สนุกสนานกันต่อไป (ค่ะ อาจารย์) อย่างนี้แล้ว จะมีประโยชน์อะไร ? หากอาจารย์ตายไป หรืออุทิศตน ทางกายแบบใดแบบหนึ่ง ฉันอุทิศตนทุกวัน (ค่ะ อาจารย์) ไม่เพียงความเจ็บป่วยทางกาย และอื่น ๆ ที่ทำอีกมากมาย ที่ฉันบอกคุณไม่ได้ แต่รวมทั้งภาวะทางจิตวิญญาณด้วย คุณทั้งหลายทราบดีอยู่แล้ว (ค่ะ อาจารย์) แบบนี้แล้ว จะมีประโยชน์อะไร ? สุนัขของฉันพูดถูกแล้ว พวกเขาบอกว่า ฉันทำสิ่งเหล่านี้ให้มนุษย์ทำไม ? มนุษย์ไม่ควรค่า ควรปลดปล่อยตัวของฉันเสีย แม้กระทั่งสวรรค์ก็บอกเช่นนั้น ปลดปล่อยชีวิตของตัวฉัน ใช่! พวกเขาบอกฉัน “ให้ชีวิตเป็นอิสระ” เพราะพวกเขาบอกว่า “เป็นอิสระ ปลอดภัย มีสันติสุข เป็นผู้ประเสริฐ” บางทีเขาก็บอกว่า “ให้มีความสุข” แบบนั้น นั่นหมายถึง “ให้ออกไป” (ค่ะ อาจารย์)
ทั้งหมดนี่เป็นเกม เป็นสิ่งลวงตาอยู่ดี เหมือนกับละคร เหมือนกับความฝัน ฉันรู้ดี แต่หากบอกกับคนทั่วไป ที่ภายนอกมีความทุกข์ มันคือความฝันสำหรับเขาหรือ ? ไม่ใช่ (ไม่ใช่ค่ะ) ถูกไหม ? (ถูกต้องค่ะ) เขาเหนื่อยยากทั้งวันทั้งคืน ทุกข์ยากทุกอย่าง อดทนกับ สภาพต่าง ๆ เพื่อให้มีรายได้ประทังชีวิต เพื่อเลี้ยงตัวเอง หรือ/และ ครอบครัว อดทนกับความเอาเปรียบทั้งหลาย และความยากลำบากทุกแบบ และลองถามสัตว์ต่าง ๆ ที่ทนทุกข์จากความโหดร้าย ที่น่าชัง ที่ทารุณ ในโรงงานสัตว์เหล่านั้น ลองถามพวกเขาว่า นี่เป็นความฝันหรือเปล่า มันเจ็บปวด คุณหยิกตัวเอง คุณก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน มันเจ็บใช่ไหม ? (ใช่ค่ะ อาจารย์) แค่หยิก คุณยังรู้สึกเจ็บปวดเลย นิ้วโดนบาดนิดหน่อย คุณยังรู้สึกเจ็บ
แล้วฉันจะเดินออกไปได้อย่างไร แล้วบอกว่า “มันเป็นแค่ความฝัน” ? สำหรับฉัน มันใช่ แม้ว่าฉันต้องเจ็บปวด ทำงานหนัก หรือฉันต้องเหนื่อย ทั้งหลายเหล่านั้น แต่ฉันก็รู้ว่า ทั้งหมดนี้จะจบลง มันเป็นแค่ความฝัน (ค่ะ อาจารย์) แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาทุกข์อย่างสาหัส ฉันจึงต้องรู้สึกถึงความทุกข์นี้ เพื่อฉันจะได้เข้าใจว่า ในความฝันทั้งหลาย พวกเขาทุกข์ทรมาน มันเป็นสิ่งจริง เหตุนี้ ฉันจึงเดินออกไปไม่ได้ (ค่ะ อาจารย์ ขอบคุณค่ะ) เหตุนี้ อาจารย์ที่รู้แจ้งต่าง ๆ หรือผู้ปฏิบัติทางจิตวิญญาณ พวกเขาไม่อยู่ในโลกนี้ พวกเขาละทิ้งโลก ไปอยู่ที่อื่น ในเทือกเขาหิมาลัย หรือตามภูเขา ที่ติดกับแม่น้ำ หรืออื่น ๆ พวกเขาใช้ชีวิตของเขา (ค่ะ อาจารย์) ไม่เหมือนกับ ชีวิตชาวโลกทั่วไป แต่ใช้ชีวิตกับพระเจ้า กับอิสระ ที่ค้นพบภายใน พวกเขาไม่สนใจ ที่จะรับลูกศิษย์ สิ่งใด ๆ เป็นสิ่งที่เพียงเกิดขึ้น พวกเขาไม่สนใจ ผู้ปฏิบัติเหล่านี้ รู้ว่ามันล้วนเป็นเพียงความฝัน (ค่ะ)