ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ที่นั่งในอาณาจักรที่สูงกว่าได้รับการ ประกันด้วยความขยันหมั่นเพียรอย่าง ซื่อสัตย์ พระคุณของอาจารย์และ พระกรุณาของพระเจ้า ตอนที่ 7/19

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
อาจารย์ผู้ใดก็ตามที่มา ผู้ใดทำดี จะถูกใส่ร้าย คุณไม่รู้หรอกว่าฉัน ถูกใส่ร้ายมากแค่ไหน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นความลับ หรือเปิดเผยก็ตาม แต่อาจารย์ก็รู้แล้ว – ว่าจะต้องทนเอา แค่ยังไม่ได้พูดถึงความเป็น อาจารย์หรืออะไรก็ตามเลย

อย่างเช่นในพระพุทธศาสนา ในปัจจุบันนี้ ถ้าใคร ชอบพระรูปใดเป็นพิเศษ เพราะเขาแสดงหลักธรรม บางประการให้เห็นภายนอก พวกเขาก็จะเริ่มไม่ชอบ พระรูปอื่น ที่ปกติกว่า - เช่น ทำตามกิจปกติ เป็นพระธรรมดา ไม่เน้นหรือแสดงความ ศักดิ์สิทธิ์หรือการรักษา หลักธรรมมากนัก เป็นต้น แล้วสาวกทั้งสองกลุ่ม ก็จะมีปัญหากัน ไปถึงขั้นใช้ความรุนแรง ลาออกไปอยู่วัดอื่น เข้าค่ายอื่น ทำร้ายพระ กระทั่งแม่ชีชรา เพียงเพราะ พวกเขาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับพระองค์อื่น ที่พวกเขานับถือ

ทุกคนต่างติดตามคนอื่นสักคน! แม้ภิกษุรูปนั้น ภายนอกอาจดูศักดิ์สิทธิ์ แต่ใครจะรู้ว่าภายในใจของเขา เป็นอย่างไร มีแรงจูงใจ และเจตนาอะไร เขามีความรู้ มีปัญญามากเพียงใด เขารู้แจ้งแล้ว มากเพียงใด บางทีอาจจะไม่มีอะไรเลย แค่ภายนอกเท่านั้น และบางทีแม่ชีและพระ ที่วิพากษ์วิจารณ์ พระที่เรียกกันว่า "ศักดิ์สิทธิ์" เหล่านี้ อาจจะศักดิ์สิทธิ์ก็ได้! มันเป็นเพียงวิธีการที่พวกเขา ต้องทำงานของพวกเขา ฉะนั้นพวกเขา (สาวก) ไม่ควรไปรังแกอีกฝ่ายหนึ่ง ให้แตกแยกกัน ทำให้พุทธศาสนาอ่อนแอลง แล้วก็อย่าไปวัดของพวกเขาเลย แล้วไปวิ่งไล่ตามพระ ที่เรียกกันว่า พระ “ศักดิ์สิทธิ์” รูปอื่น – คุณทำได้ คุณทำได้ แต่คุณไม่อาจละทิ้ง ครูในอดีตของคุณได้

เขาทำสิ่งที่เขาทำได้ เขาได้เสียสละชีวิตของเขาเอง เขาไม่มีครอบครัว ภรรยา และลูก ๆ อย่างที่คุณสุขใจในชีวิต และเขาก็กินอาหารเรียบง่ายมากกว่า เขาสวมเพียงเสื้อผ้าที่เรียบง่าย มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุด และอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เรียบง่าย แม้แต่ในวัด ห้องเล็ก ๆ หรืออะไรทำนองนั้น เขา “สละ” ชีวิตของเขาไป รวมทั้ง ความสุขสบายทุกอย่างรอบตัวเขา เพื่อที่จะได้บวชเป็นพระ บางทีเขาอาจไม่ใช่พระที่ดีเลิศนัก แต่อย่างน้อยกับเขา คุณก็ได้เรียนรู้ที่จะจดจำ คำสอนของพระพุทธเจ้า เขาสอนคุณสิ่งที่เขาทำได้ และถ้าคุณคิดว่า เขาไม่ดีพอ คุณก็ยังสามารถ หาพระหรือครูคนอื่นได้ แน่นอน แต่อย่ากลับมาขว้างก้อนหิน หรือมะเขือเทศใส่ ครูเก่าของคุณ เพียงเพราะว่าเขารู้น้อยกว่า หรือเขาไม่แสดงวินัย เพียงพอต่อความชอบของคุณ! นั่นคือความรุนแรงต่อ คำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ทรงต้องการ ให้สาวกของพระองค์คนใด ไปทำร้ายสาวกคนอื่นเป็นอันขาด

เพราะคุณก็เป็น คนธรรมดาคนหนึ่ง คุณไม่รู้หรอกว่าพระไหนศักดิ์สิทธิ์ และพระไหนไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ บางครั้งพระบางรูป ก็มีเจตนาดีอยู่ภายใน แต่ขณะพูดคุยกัน ก็อาจพูดผิดบ้าง อาจไม่มีการวางแผนการบรรยาย และไม่มีเครื่องบอกคำบรรยาย เหมือนอย่างที่คนรวยบางคนมี ฉันไม่มีในขณะนี้ ฉันเคยมีมันอยู่ช่วงหนึ่ง หลายครั้ง แต่สิ่งที่ฉันพูดบางครั้ง ฉันก็หลุดจากบทอยู่ดี และฉันไม่ชอบที่จะเตรียมสคริปต์ เว้นแต่ว่ามันจะเป็นสำหรับบาง... ไม่ ฉันไม่ทำ แต่มีอยู่หลายครั้ง ที่เขาเตรียมไว้ ฉันไม่ได้ทำ ฉันแค่พูด เหมือนตอนนี้ฉันก็พูดอยู่ในความมืด ตามธรรมชาติ อะไรก็ตามที่เข้ามา เพราะมันมาจากหัวใจ จากจิตวิญญาณ และจากความรักที่ ฉันมีต่อพวกคุณทุกคน แม้ว่า คุณจะไม่รู้จักฉันก็ตาม หลายคนไม่รู้จักฉัน และฉันก็ไม่รู้จักใครอีกหลายคน – แม้ในทางกายภาพก็ตาม แต่ฉันรู้จักวิญญาณของคุณทั้งหมด ฉันรู้ว่าคุณรักความสุข ฉันรู้ว่าคุณต้องการกลับบ้าน แม้ว่าจิตของคุณจะหยุดคุณไว้ หลอกลวงคุณก็ตาม แม้แต่มายาของโลก ซึ่งปกครองดาวเคราะห์นี้ ยังพยายามอย่างยิ่งที่จะแยกคุณ ออกจากบ้านดั้งเดิมของคุณ จากเจตนาและความปรารถนา อันสูงส่งเดิมของคุณ โปรดพยายามกลับไป หาเวลาในแต่ละวัน เพื่อระลึกถึงอุดมคติดั้งเดิมของคุณ และเหตุใดคุณจึงมาที่นี่ และขอให้พระเจ้าทรงนำทางคุณ ไปหาครูคนหนึ่ง ถ้าคุณไม่สามารถค้นหาด้วยตนเองได้ จงอธิษฐานขอพระเจ้าอย่างแรงกล้า จริงใจ และสิ้นหวัง เพื่อขอให้ทรงส่งครูมาให้แก่คุณ

และตอนนี้เราก็กลับมาสู่ สนามรบของพระอีกครั้ง ศาสนาหลายศาสนาต่อสู้ กับศาสนาอื่น และภายในศาสนาหนึ่ง บางครั้งก็มีการต่อสู้กัน ในสมัยพระพุทธเจ้า ลูกพี่ลูกน้องของพระองค์ เป็นสาวกด้วย และพี่เขยของพระองค์ด้วย ก็ต่อต้านพระองค์ และคิดจะฆ่าพระองค์ด้วย เขาแค่เผยแผ่ให้คนอื่นรู้ ว่าเขา "มีวินัยมากกว่า" พระพุทธเจ้า เป็นนักบวชมากกว่า และอื่น ๆ ช่างโง่อะไรอย่างนั้น!

บางคนจะกินอาหารสาม สี่มื้อต่อวัน และพวกเขายังรู้แจ้งได้ บางคนไม่กินอะไรเลย และไม่รู้แจ้ง เช่นพระพุทธเจ้า ทรงเสวยงาเพียง สามสี่เมล็ดต่อวัน และดื่มน้ำเพียงเล็กน้อย พระองค์ก็ทรงยังไม่ตรัสรู้ตอนนั้น จนพระองค์ทรงรู้ว่าผิด จึงเปลี่ยนมาปฏิบัติธรรม สายกลาง คือ รับประทาน อาหารมื้อเดียว แต่อย่างดี จากนั้นจึงปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง แล้วทรงตรัสรู้

แต่พระพุทธเจ้าทรงเรียนรู้ เรื่องต่าง ๆ มากมายทั้งในสมัย บำเพ็ญตบะและภายหลังจากนั้นด้วย พระองค์มีเวลาเยอะ พระองค์ทรงอยู่ลำพัง และทรงเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย มีวิธีการที่จะเรียนรู้ วิธีอ่านอดีตชาติของคุณ มีวิธีการที่จะเรียนรู้วิธี อ่านใจผู้อื่น มีวิธีเรียนรู้ การเดินบนน้ำ มีวิธีการเรียนรู้ วิธีบินในอากาศ พระพุทธเจ้าทรงเชี่ยวชาญ เรื่องการบินในอากาศ ฉะนั้น บางครั้งถ้ามันนาน เกินไปและไม่สะดวกเกินไป พระองค์ก็จะบินพร้อมกับสาวก บางคนไปทานอาหารกลางวัน ที่บ้านที่ได้รับเชิญ มีบันทึกไว้ในพระสูตร ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ลองดูสิ และพระองค์ทรงมีความสามารถใน การอ่านใจผู้คน และย้อนกลับ ไปยังอดีตชาติของพระองค์เอง และของผู้อื่นได้เช่นกัน และพระองค์ก็ทำสิ่งอื่น ๆ ได้มากมาย เพราะพระองค์ทรงเรียนรู้ สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดก่อนจะ ทรงตรัสรู้ และบางส่วนก็ ภายหลังการตรัสรู้แล้วด้วย และบางอย่างก็มา พร้อมกับการตรัสรู้ โดยธรรมชาติ เช่น ได้ยินแต่ไกล มองเห็นแต่ไกล

และทุกวันนี้ก็ยังมี คนจำนวนหนึ่งที่ยัง มีพลังวิเศษเหล่านี้อยู่ พวกเขาสามารถหายตัววับไป พวกเขาบินได้ในอากาศ – และยังคงทำได้! บางคนก็ทำแบบนั้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่พวกเขาไม่แสดงออกมา เพียงแต่บางครั้งพวกเขาก็ทำ แบบนั้นแล้วบังเอิญคนอื่น เห็นและถ่ายรูปไว้ ในปัจจุบันคุณสามารถถ่ายภาพ เก็บอะไรก็ได้ และโชว์อะไรก็ได้ เพราะมีเทคโนโลยีสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอย่างน้อย หลายร้อยคนที่ยังคง ฝึกฝนเวทมนตร์อันเป็นประโยชน์ ทุกประเภทเช่นนั้น เพื่อความสะดวกของพวกเขาเอง และอีกอย่างพวกเขา ไม่ต้องกินอะไรอีกแล้ว แต่คุณไม่สามารถพบเจอได้มากนัก พวกเขาซ่อนตัวอยู่ พระพุทธเจ้ายังได้ทิ้งพระสูตรไว้ อีกมากมายเกี่ยวกับวิธีเรียนรู้ เรื่องเวทมนตร์เหล่านี้เช่นกัน

เมื่อพระองค์ (พระพุทธเจ้า) ยังทรงพระชนม์ชีพ และมีคนจำนวนมาก ติดตามพระองค์เป็นพระ พวกเขาเหล่านั้นก็มีพลัง วิเศษต่าง ๆ มากมาย เช่น บินไปกับพระองค์ได้ ทะลุหินได้ และอื่น ๆ อีกมากมาย ครั้งหนึ่งมีพระรูปหนึ่ง ซึ่งติดตามพระพุทธเจ้า มาประทับนั่งอยู่ หน้าอาศรมที่พระพุทธเจ้าประทับ อยู่ในเวลานั้นพร้อมด้วย พระจำนวนนับพันรูป เขากำลัง ซ่อมเจียชา (ผ้าไตร) ซึ่งเป็น ชุดชั้นนอกของพระภิกษุ และมีกษัตริย์องค์หนึ่ง มาต้องการเข้าเฝ้า พระพุทธเจ้าแต่ไม่ทราบ ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน พระองค์จึงตรัสถามพระ ที่กำลังซ่อมเสื้อผ้าของเขาอยู่ ว่า “ท่านจะ ช่วยไปดูพระพุทธเจ้าว่า อยู่ที่ไหน และบอก พระพุทธเจ้าได้ไหมว่า เรามาเยี่ยมพระองค์ ได้โปรด?” พระสงฆ์รูปนั้นจึง เดินผ่านหินเข้าไป เพื่อเข้าไปหาพระพุทธเจ้า ต่อมาพระพุทธเจ้า ได้ทรงเห็นพระราชา พระราชาทรงประทับใจมาก จึงทรงถามพระพุทธเจ้า ว่า “ผู้นั้นคือใคร?” – พระภิกษุที่กำลังนั่ง อยู่ข้างนอกกำลังซ่อมเจียชา ของตน (ผ้าไตร) เป็นชื่อพิเศษสำหรับ ชุดที่พระภิกษุสวมใส่ หลังจากพิธีบวช อย่างเป็นทางการแล้ว พวกเขาจะสวมชุดเจียชา (ผ้าไตร)

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “ออ เขาเป็น คนเก็บอุจจาระคนหนึ่ง ติดตามเรามาและได้บวชเป็นพระ” พระราชาทรงละอายพระทัยมาก ๆ และรู้สึกผิดมาก เพราะเมื่อคนพวกนี้ ต้องการจะบวชและบวช โดยพระพุทธโอวาทแล้ว ก็มีผู้คนมากมาย เข้ามาใส่ร้าย ล้อเลียน ปฏิเสธ โดยกล่าวว่า "โอ้ เขามาเพื่อ อาหาร เงินทอง และ ชื่อเสียงเท่านั้น" แต่มันไม่เป็นความจริง ในเวลาสั้น ๆ พวกเขาก็ เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากพระพุทธเจ้า และเดิน เข้าไปในหินเพื่อไปยังอีก ฝั่งของหินใหญ่เพื่อให้ เดินไปได้เร็วกว่าต้องเดิน ตามเส้นทางที่เป็นทางการ กษัตริย์พระองค์นั้นแปลกใจ และประทับใจมาก มันเป็นอย่างนั้น ผู้คนที่ติดตามพระพุทธเจ้า ในสมัยนั้นส่วนมาก ไม่ได้ร่ำรวยหรือ มีชื่อเสียงหรืออะไรเลย

และแม้แต่ภรรยา ของพระมหากัสสปะ ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ กันอยู่แล้ว เธอติดตามพระองค์ ไปบวชเป็นแม่ชี เหมือนตอนแรก เพราะท่านยังใหม่ พระมหากัสสปะ จึงทรงดูแลท่าน เขานำอาหารมาให้ท่านและ พวกเขาก็ทานอาหารด้วยกัน แล้วก็มีพวกนินทา ใส่ร้ายสารพัด ต่อมาเขาก็แยกย้ายกันไป พวกเขาไม่ได้กินข้าว ด้วยกันอีกแล้ว และ ต่างคนก็ดูแลตัวเอง ยกตัวอย่างอย่างนั้น การเป็นผู้หญิง ที่ใกล้ชิดคณะสงฆ์ และมีสามีเก่านำ อาหารมาเลี้ยงและ เป็นคนดีต่อคุณ... เพราะพวกเขา ดีต่อกัน! พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน แต่พวกเขาแยกทางกัน เพราะเหตุผลอันสูงส่ง มันไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะแยกตัวออกไป และมองกันและกันเหมือน คนแปลกหน้าหรืออะไรก็ตาม เพราะพวกเขา ไม่เคยมีอะไรผิดต่อกัน และก็ยังคงเป็นเช่นนั้น!

แต่ว่ามนุษย์ก็คือมนุษย์ และเรามักจะมีปัญหาเสมอ พวกเขามักจะมอง แต่สิ่งภายนอก การกระทำภายนอก โดยไม่มองเข้าไปภายใน เพื่อการรู้แจ้งหรือสถานะ ของบุคคลศักดิ์สิทธิ์นั้น แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะทำเช่นนั้น แต่พวกเขาทำไม่ได้ เพราะมนุษยชาติ ส่วนใหญ่สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว พวกเขาลงมาจากสวรรค์ นาน นาน นานมากแล้ว และ พวกเขามีแต่สูญเสีย สูญเสีย และในบางครั้ง พวกเขาก็กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ ของตนเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะ สามารถบรรลุธรรมและกลับไป เป็นตัวตนสวรรค์อีกครั้ง ดังนั้น การตัดสินของพวกเขาก็ตรงไปตรงมา ดวงตาของพวกเขาบอดหมด ถึงแม้จะเปิดอยู่ทั้งหมดก็ตาม หูของพวกเขาล้วนหูหนวก แม้ว่าพวกเขายัง สามารถได้ยินคุณพูดก็ตาม แต่พวกเขาไม่ได้ได้ยินสิ่ง ที่เป็นจริงจากโลกภายใน จากโลกแห่งความเป็นจริง พวกเขาไม่เห็นสิ่งที่แท้จริง จากภายใน ภายในตัวพวกเขาเอง พวกเขามีโลกที่แท้จริง จักรวาลทั้งหมดอยู่ภายในตัวเขา แต่พวกเขาไม่เห็น หรือได้ยินอะไรเลย

Photo Caption: ต้นกำเนิดอันต่ำต้อย ยังคงสามารถอยู่ในบ้านอันสง่างามได้

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (7/19)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์