รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
หลังจากฉันแต่งงาน ออกจากบ้าน ฉันไปบวชชี แล้วสละชุด แม่ชีเพื่อไปทำงาน ในโลก อยู่ใกล้ชิดกับ ผู้คนมากขึ้น และทำธุรกิจ เพื่อเลี้ยงดูงานของเรา ฉันจะได้ไม่ต้องพึ่ง สิ่งที่เรียกว่าลูกศิษย์ ของฉัน นอกจากนี้ตอนที่ฉัน สวมจีวรก็มีหลายคน วิพากษ์วิจารณ์ฉันมาก โดยบอกว่าฉันอยากจะพา ลูกศิษย์ไปหรืออะไรก็ตาม ฉันไม่สามารถสวมชุดคาทอลิกได้ หรือเสื้อผ้าแบบมิชชันนารีอื่น ๆ เพราะบางทีฉัน อาจจะมีปัญหาเดียวกัน ฉันเลยคิดว่าฉันจะใส่เสื้อผ้า ธรรมดา ๆ หรือไม่ก็ใส่ เสื้อผ้าที่ออกแบบเอง เพื่อจะได้เป็นนางแบบ และขายไปพร้อม ๆ กันและพระเจ้าทรงเลี้ยงดูฉัน ให้หาเงินได้มากพอที่จะดูแล สิ่งที่ฉันอยากทำ และช่วยเหลือผู้อื่น เช่น ดูแลทีมของฉัน สมาชิกในทีมบางคน พระและแม่ชี ที่ติดตามฉัน คนจนหรือคนขัดสน หรือเรื่องดี ๆ ทุกแห่ง และฉันก็พอใจกับสิ่งนั้น แต่ฉันไม่มีบ้านหลังใหญ่ หรืออะไรเผื่อคุณคิด ว่าฉันใช้เงิน เพื่อสร้างบ้านดี ๆ คราวที่แล้วฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าห้องของฉันเล็กมาก ฉันมีแค่ห้องเดียว เหมือนสตูดิโอ หากคุณเช่าสตูดิโอก็จะถูกกว่าบ้าน หรืออพาร์ตเมนต์ สตูดิโอจะมีห้องน้ำ และสิ่งต่าง ๆ ด้วย ง่ายมาก และถ้าคุณทำอาหารง่าย ๆ คุณก็สามารถทำอาหารใน สตูดิโอได้เช่นกัน ฉันคิดว่าฉันยังมีรูปถ่าย ที่จะให้คุณ เพื่อให้คุณเห็นว่าฉันใช้ชีวิตอย่างไรโอเค นี่ฉันอาศัยอยู่ในห้องหนึ่งห้อง อย่างที่ฉันบอกไป ภาพถ่ายแรก คือภาพรวมของห้องทั้งหมด ตั้งแต่ส่วนการทำสมาธิ ส่วนการพักผ่อน ไปจนถึงห้องครัว ภาพที่สอง ถ่ายจากมุมทำครัว นั่นคือประตูหน้าบ้าน ห้องครัวอยู่ ตรงประตูหน้า และอยู่ตรงข้ามกับห้องอาบน้ำ เพราะห้องอาบน้ำ มีเครื่องระบายอากาศและหน้าต่าง ภาพที่สามนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่า เมื่อฉันปิดฉากกั้น ห้องครัวและห้องน้ำ จะแยกออกจาก ห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นที่ที่ฉันนั่งทำงาน และที่ที่ฉันทำสมาธิและพักผ่อน และภาพที่สี่ คือห้องอาบน้ำ – เล็กแต่ก็เพียงพอสำหรับฉัน ตอนนี้คุณรู้ความลับที่ซ่อนไว้ของฉันแล้ว หวังว่าคุณคงไม่บอกใคร เกินร้อยคนและฉันบอกคุณว่า ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบนั้น คุณจะรู้สึกมีความสุขมาก สำหรับฉัน ฉันมีความสุขเพราะฉัน มีทุกสิ่งอยู่แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ในขณะที่ฉันยุ่งมาก เวลาของฉันมีค่ามาก แม้ว่าฉันจะไม่ยุ่ง แต่ฉันก็ต้องนั่งสมาธิมาก และไม่ต้อง ไปจากห้องหนึ่งไป อีกห้องหนึ่งถ้ามีบ้าน เพื่อมองหา และหาสิ่งที่ฉันต้องการ วิถีชีวิตของฉันตอนนี้ หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่กี่ปีมานี้ ตอนที่ฉันเข้าฌาน มันก็แทบจะเป็นอย่างนั้นตลอดเวลา แม้ว่าฉันจะเปลี่ยนไปที่อื่น มันก็เรียบง่ายแบบนั้น แค่ห้องเดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมี อะไรมากมายเมื่อคุณอยู่คนเดียว แค่เสื้อผ้าสักสองชุด อาหาร และมุมเล็ก ๆ เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้ เพราะฉันทำงานมากกับ ทีมโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ และถ้าฉันเอาแต่ เดินจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง อย่างเพลิดเพลินและผ่อนคลาย ฉันก็จะไม่มีวัน มีเวลาทำงานภายใน หรือทำสมาธิ ให้กับโลกอีกต่อไปถ้าฉันอยู่คนเดียวและ ไม่ได้เป็นคนที่เรียกว่าอาจารย์ ฉันก็ ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้น ฉันจะมีความสุข เหมือนบางวัน ที่ฉันมี "วันหยุด" สองสามวัน ฉันคิด ว่ามันเป็นสี่หรือห้าวัน อะไรประมาณนั้น โอ้ มันคือสวรรค์ มันคือสวรรค์ ถ้าฉันนั่งสมาธิ แค่นั้น ฉันจะเข้าสู่สมาธิ ทันที สงบและดีมาก... ฉันไม่รู้จะบอกคุณยังไง มันก็มีแต่ความสุข สงบ และสุขเท่านั้น และเมื่อฉันเริ่มทำงาน อีกครั้งสองสามวันต่อมา มันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันไม่สงบและไร้กังวล เช่นนั้นอีกต่อไป ฉันยังคิดถึง วันที่ฉันอ่อนล้าและเศร้ามาก และต้องหยุดพัก ฉันคิดถึงวันเหล่านั้นมาก แต่คุณไม่สามารถเห็นแก่ตัว และแค่คิดถึงตัวเองได้ ฉันหวังว่าฉันจะเห็นแก่ตัว และคิดเพื่อตัวเองเท่านั้นการใช้ชีวิตของฉัน บางครั้งฉันก็ไม่มี เวลาพอที่จะกินยา หรือถ้าฉันป่วย ฉันก็แค่ พูดว่า "โอเค หายไว ๆ นะ" ฉันบอกตัวเองว่า "หายไว ๆ หายไว ๆ นะ" แล้วมันก็ได้ผล ก็ไม่ใช่ตลอดเวลา ไม่ใช่ตอนที่อยู่กับลูกศิษย์ หรือผู้คน กำลังบรรยาย หรือพูดคุย หรือเข้าฌาน กับลูกศิษย์ ยิ่งคนมาก ก็ยิ่งไม่หายดี แต่ถ้าฉันพักหลังจากนั้น ฉันก็จะฟื้นตัวได้ บางครั้งฉันทำไม่ได้ แล้วก็ต้องไปหาหมอ หรือร้านขายยา ซึ่งฉันไม่ชอบเพราะ ยาดีสำหรับคุณ เมื่อมันรักษาโรคได้ แต่มันก็ทิ้งร่องรอย ที่ไม่พึงประสงค์ ไว้ในตัวคุณด้วย ฉันจึงไม่ชอบยาเลย ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก พ่อมักจะบังคับ ฉันให้กินยา ที่เขาคิด ว่าจำเป็นเสมอ บางครั้งเขาต้องวางฉัน บนพื้นและแม่ของฉัน ก็จับฉันบนพื้น และพวกเขาก็ต้อง ใช้ช้อนง้างปากฉัน เพื่อจะใส่ยาเข้าไป ฉันไม่กล้า กินยาจาก พ่อเลยจริง ๆและทุกวันนี้ฉันอาสา ถ้าฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถ รักษาตัวเองได้เร็วพอเพราะ ฉันมีงานอื่นที่ต้องทำ คุณสามารถรักษาตัวเองใน ทุกสิ่งได้ถ้าคุณมีเวลา เพียงพอในการพักผ่อนและ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด ๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณนั่งสมาธิเพียงพอ ร่างกายจะรักษาตัวเอง ร่างกายจะรักษา! และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น กับฉันหลายครั้ง เมื่อฉันมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ เมื่อฉันมีลูกศิษย์น้อยลงฉัน ก็ไม่ต้องการสิ่งนั้นด้วยซ้ำ มันจะหายเร็วมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือฉันแค่ใช้ยาแก้หวัด ตามธรรมชาติเล็กน้อย ออกกำลังกาย หายใจ หรือทำสมาธิเพิ่มเติม หรือไปเดินป่าหรือ เดินป่าในที่โล่ง จากนั้นฉันก็หายดี อย่างรวดเร็วภายในสองสามวัน หรือสามสี่วัน สมัยนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว มันขึ้นอยู่กับ - ขึ้นอยู่กับหลายอย่างพระพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพาน หลังจาก 500 ปีแห่งธรรมะอันดี (คำสอนที่แท้จริง) แห่งธรรมะอันเจริญรุ่งเรือง แล้ว 500 ปีต่อมา ก็ยังเป็นธรรมะที่ดีอยู่ แล้ว 500 ปีต่อมาก็เป็น เพียงธรรมะเชิงสัญลักษณ์ แล้วอีก 500 ปีต่อมา ก็ยังเป็นเพียงธรรมะเชิงสัญลักษณ์ และ 500 ปีสุดท้าย หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน เป็นยุคสิ้นธรรมะ ซึ่งก็คือปัจจุบัน ถ้าเราคำนวณ มันก็คือตอนนี้ เป็นเวลา 2,500 ปีแล้ว หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน บัดนี้ ถึงยุคสิ้นพระธรรมแล้ว และพระพุทธเจ้าตรัสว่า ในยุคนี้ พลังลบทั้งหมด - ไม่ว่าจะเป็นราชาแห่งมารก็ตาม ญาติและลูก ๆ ของท่าน ก็จะเข้าสู่ศาสนาพุทธ และกลายเป็น พระภิกษุและแม่ชีด้วยคุณจะแปลกใจ ถ้าพวกเขาบอกว่า มีแม่ชีด้วย ในเวียดนาม (เอาหลัก) ที่ไปเล่นการพนันมากมาย ฯลฯ และพระบางรูป ยังกินเนื้อชาวสุนัขด้วยซ้ำ โอ้ อามีถั๋วฝัว (อมิตาภะ)! ฉันหวังว่า มันจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่พวกเขามีรูปถ่าย และเรื่องราวทุกอย่าง
(กินเนื้อสุนัขในเจ็ดจาน) วันนี้เรากินเนื้อสุนัข เนื้อสุนัขอร่อยมาก มีอาหารเจ็ดอย่างที่แตกต่างกัน เนื้อสุนัขอร่อยมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการ!ตั้งแต่สมัยโบราณ มีคำกล่าวว่า: พระอะไรจะกินเนื้อสุนัข? วันนี้เราจะนำเสนอคลิป ชื่อว่า “พระภิกษุ กินเนื้อสุนัข!”
ไม่ใช่แค่การนินทานอก หน้าต่างกับ เพื่อนบ้านหรืออะไรก็ตาม ซึ่งฉันไม่เคยทำแน่นอน และหน้าต่างของฉันก็เปิดไม่ได้ คุณเปิดได้เฉพาะส่วนบนเท่านั้น ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือ อะไรเลย คุณต้อง... ฉันตัวเล็กมากจึง ต้องปีนขึ้นไปบน เก้าอี้หรือเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ เพื่อเปิดหน้าต่าง ส่วนบน และวิธีเดียวที่คุณ จะออกจากบ้านได้ ห้อง คือผ่านประตูหลัก คุณไม่สามารถออกไปนอก หน้าต่างและไม่สามารถเปิดได้ ฉันเดาว่าผู้คนสร้างมัน ด้วยวิธีนี้เพื่อความปลอดภัย แต่ฉันอยากจะอยู่ในโรงเก็บของ หรืออะไรแบบนั้นมากกว่านี้ ถ้าฉันทำได้ ฉันก็ทำเสมอถ้าฉันมีสวนและโรงเก็บของ ฉันจะไปอยู่ในโรงเก็บของ มันเย็นกว่าในฤดูร้อน และในฤดูหนาว คุณจำเป็นต้องมี เครื่องทำความร้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คุณไม่ต้องเสียเงินเป็น จำนวนมากในการทำความร้อน หรือทำความเย็นทั้งบ้าน แต่ฉันต้องยอมรับทุกสิ่ง ที่เสนอให้ฉันบนท้องถนน ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็ตาม ฉันมีความสุขได้ทุกที่ ตราบใดที่ฉันมีความสงบและ ปลอดภัยพอที่จะทำงาน ฉันสามารถเชื่อมต่อกับคุณผ่าน ทางเว็บ ผ่านทาง โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ของเรา อย่างน้อยคุณก็รู้ว่า ฉันยังอยู่ที่นี่และ ห่วงใยคุณแบบเงียบ ๆ และไม่ต้องนั่งกับคุณ แล้วเล่าเรื่องและอะไร พวกนั้นให้คุณฟังทุกวันนี้คุณสามารถอ่าน เรื่องราวมากมายได้ตลอดเวลา คุณสามารถซื้อหนังสือหรือ ดูบนเว็บไซต์แล้วคุณจะ พบทุกสิ่งที่คุณต้องการ สมัยนี้สะดวกมาก ฉันต้องขอบคุณพระเจ้า และพระศาสดาทุกพระองค์ สำหรับความสะดวก และบุญทั้งหมดที่เรามี แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะ ยิ่งเราสบายใจมากขึ้น เราก็ต้องการสิ่งนี้และสิ่งนั้น เหมือนเพื่อนบ้านมากขึ้น และเราลืมวิถีชีวิตทางจิตวิญญาณ ที่เราควรดำเนินชีวิตตามนั้น เราควรใช้ชีวิตทางจิตวิญญาณ ไม่ใช่ชีวิตทางวัตถุนิยม วิถีชีวิตทางวัตถุ แค่ช่วยให้เรารักษา ความเป็นอยู่ทางกายภาพ ร่างกาย เพื่อให้เราสามารถ บำเพ็ญต่อไปได้ เพื่อให้เราไปสู่มิติ ทางจิตวิญญาณในระดับที่สูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นรอบตัวเราเช่นกัน ไม่ใช่แค่เราคนเดียวPhoto Caption: พระเจ้าไม่ใช่ศิลปินที่เก่งที่สุดหรือ!