ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ชีวิตของพระมหาวีระ: อดอาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือจันดานา ตอนที่ 1 ของ 5 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ต่อเมื่อคุณจำไม่ได้แล้วว่า คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หรือสองเพศ หรือเลสเบี้ยน หรือเกย์ หรือตุ๊ด หรือไม่เป็นตุ๊ด คุณเปลี่ยนตัวเอง แล้วคุณจึงจะ อยู่เหนือทั้งหมดนี้ได้ แล้วคุณจึงสามารถเป็นพุทธะได้

สวัสดี มันหนักไปหรือเปล่า? คนแข็งแรง ฉันรู้แล้วล่ะว่า ทำไมโลกนี้จึงมีผู้ชาย พวกเขาสำหรับยกสิ่งเหล่านั้น เพราะพวกผู้หญิงทำไม่ได้ สวัสดี! (สวัสดีค่ะ/ครับ อาจารย์) สวัสดี ฉันขอโทษนะ ตาของฉันรู้สึกเจ็บ ฉันจึงต้องใส่แว่นตา แบบนี้ คุณยังเห็นฉันหรือเปล่า? คุณเห็นตาฉันไหม? รักพวกคุณ พวกเด็กผู้ชายมีมากขึ้น ใช่ไหม? (ขอบคุณท่านครับ) แข่งกัน คุณจัดที่สำหรับ ให้พวกพี่สาวสูงอายุ จะได้นั่งข้างหลังหรือเปล่า? (ครับ) ทำไมพวกเขามีไม่กี่คน? สวัสดี (สวัสดีค่ะ อาจารย์) ดี ฉันอยากดูพวกคุณ เอาหลัก (เวียดนาม) ใช่ไหม? ใช่ไหม? (ครับ) จีน? เอาหลัก (เวียดนาม)? ( ครับ เอาหลัก (เวียดนาม) ) ( สวัสดีค่ะอาจารย์ ) สวัสดี ( สวัสดีค่ะ/ครับ อาจารย์ ) สบายดีไหม? สวัสดี (สวัสดีค่ะ อาจารย์) สวัสดี สวัสดี พระ

ทุกคนเห็นฉันไหม ถ้าฉันนั่งตรงนี้? เห็นไหม? (เห็นค่ะ/ครับ) ฉันประทับใจมาก ในการใช้ชีวิตของพวกคุณ ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณ ทำทุกวันได้อย่างไร ฉันทำแค่วันอาทิตย์เท่านั้น และฉันรู้สึกว่า ต้องใช้ความพยายามมาก ๆ พวกคุณทำทุกวันได้อย่างไร? คุณไปทำงาน และกลับมาบ้าน ทำอาหาร ซักล้าง ซื้อของ จูบสามี จูบภรรยา และไปนอน จูบลูก ๆ ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ คุณทำทั้งหมดนั้น คุณทำได้อย่างไร? และทุกวันด้วย ฉันหมายถึง ทุกวันคุณไปทำงาน และเมื่อกลับถึงบ้าน คุณทำงานอื่นอีก และยังอยู่รอดได้ และคุณยังนั่งสมาธิ วันละสองชั่วโมงครึ่ง? ไม่ สองชั่วโมงครึ่ง อาจจะ หลายชั่วโมง วาว ไม่แปลกใจเลยที่มัน ขึ้นไปยากมาก พระพุทธเจ้า ตอนที่พระองค์มีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ของพระองค์เป็นพระสงฆ์ มากถึงสองพัน สองพันกว่าคน ทุกคนไม่ทำอะไร ไม่ทำงาน ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก ไม่ห่วงอะไร ฉันไม่ต้องการอันนี้ คุณยังคงเห็นฉันใช่ไหม? ไม่หรือ? ( พวกเราเห็นท่านค่ะ ) คุณเห็นตรงนี้ แต่พวกเขาไม่เห็น

ตาของฉันเจ็บ จมูกของฉันเริ่มน้ำมูกไหล ทันทีที่ฉันพูดว่า “โอเค ฉันต้องไป” ฉันหมายถึงฉันต้องมาที่นี่ จมูกของฉันเริ่มน้ำมูกไหล ตาของฉันเริ่มเจ็บ ครั้งที่แล้วไม่แย่นัก แต่กรรมจากการประทับจิต นั้นมาทีหลัง ค่อย ๆ มา บางครั้งมันมาก่อน บางครั้งมันมาในวันที่ ประทับจิต บางครั้งมันมาครึ่งหนึ่งก่อน หรือหนึ่งส่วนสี่ และมาในช่วงที่ประทับจิต แล้วมาเพิ่มอีกภายหลัง บางครั้งมันมาตอนหลัง แต่ว่า ฉันก็ พยายามมาที่นี่จนได้ พร้อมกับผ้าพันคอ และทุกอย่าง ฉันคิดว่าฉันเป็นซูเปอร์วูแมน ตามความรู้สึกของฉัน ฉันพยายามต่อรอง ฉันถามทุก ๆ คนว่า “มีคนเท่าไหร่? ชาวตะวันตกมีกี่คน? คนใหม่มีกี่คน? ใครบ้างที่ ไม่เคยเห็นฉันมาก่อน และอยู่ต่ออีกหน่อย อาจจะอีกสองสามวัน หรืออีกสัปดาห์หนึ่ง?” ฉันต่อรอง พยายามจะดูว่า ฉันสามารถพบพวกเขาพรุ่งนี้ หรือวันต่อไปได้ไหม เมื่อฉันรู้สึกดีขึ้น แต่ว่าไม่ บางคนจะกลับพรุ่งนี้ สองสามคน และอีกสองคนกลับวันมะรืน และอีกห้าคนกลับวันต่อไป ฉันแพ้ คุณชนะ คุณชนะ คุณชนะ ฉันคิดว่าฉันอยากจะ...

บางทีมันน่าจะดีถ้าพวกคุณ ทุกคนโกนหัว และเป็นแบบนี้สำหรับฉัน แล้วทุก ๆ วันฉันจะ ส่งพวกคุณออกไป เดินบิณฑบาต แล้วกลับมา ส่วนฉันงีบหลับพักผ่อน และตื่นขึ้นมา ฉันก็พูดคุยกับพวกคุณ ฉันจะโกนหัวอีกเหมือนกัน เพื่อเป็นเพื่อนคุณ คุณจะได้ไม่รู้สึกแย่เกินไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้มากนัก บางครั้งฉันสามารถ ออกจากสมาธิได้ง่าย บางครั้งก็ไม่ได้ และมันยากมาก ที่จะออกมาเมื่อฉันออกมาไม่ได้ อย่างเช่นวันนี้ วันนี้ ฉัน เดิน พูด เหมือนกับหุ่นยนต์ อะไรแบบนั้น เอาล่ะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว ดังนั้นเรามาพูดธุระกัน ฉันคิดว่าวันนี้ ฉันแต่งหน้าและ พยายามติดกระดุมบางอย่าง หรือติดตะขอ และใส่จิวเวลรี่ หรืออะไรก็ตาม แต่แล้วสิ่งเหล่านี้มันใช้ไม่ได้ ตะขอนั้นใช้ไม่ได้ กระดุมบางตัวก็ใหม่เกินไป ติดไม่เข้า และเรื่องอื่น - กางเกงไม่พอดี หรืออะไรก็ตาม และรองเท้าอ้าปาก หัวเราะใส่ฉัน มันเป็นรองเท้าใหม่! ไม่ใช่คู่นี้ คู่นี้ไม่ใช่ คู่นี้เก่าแล้ว สมัยก่อน เวลาที่พวกเขาทำรองเท้า มันใช้ได้นาน ตลอดชีวิต สมัยนี้ รองเท้าของฉัน หลายคู่ อ้าปากและหัวเราะ อาจจะรองเท้ามีความสุข เมื่อก่อนฉันเคยออกแบบ เสื้อผ้าที่กล่าวว่า “แฮปปี้ โยคี” ตอนนี้พวกเขาเลียนแบบฉัน พวกเขาออกแบบ รองเท้าแฮปปี้ แบบนี้ รองเท้าแฮปปี้โยคี หรือบางอย่าง อันนี้ดูดีกว่า ฉันสามารถเห็นพวกคุณ ฉันแค่ต้องการอ่านตัวใหญ่หน่อย แต่ว่าแบบนี้ฉันก็ อ่านได้เหมือนกัน ถ้ามีแว่นตามันจะง่ายขึ้น เท่านั้นแหละ แว่นตาอ่านหนังสือ ด้วยอายุขนาดฉันนี้ ตาของฉันถือว่ายังคงไม่เลวนัก มันถูกก่อกวนมาตลอดหลายปี แต่ก็ยังคงไม่เลว ขอบคุณธรรมวิถีกวนอิม

เอาล่ะ ตอนที่ฉัน กำลังแต่งตัว และติดกระดุม ฉันคิดว่า “โอ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระองค์ตรัสถูกต้องมาก ถูกต้องมาก พระองค์ตรัสว่า “ผู้ชายเท่านั้น สามารถเป็นพุทธะ จงพอใจ” นั่นคือที่คุณคิด ฉันเดาว่า ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณไม่สามารถเป็นพุทธะด้วย คุณก็เป็นพุทธะไม่ได้เหมือนกัน รู้ไหมเพราะอะไร? ฉันเคยบอกคุณแล้วเมื่อก่อน ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณเป็นพุทธะไม่ได้ ถ้าคุณเป็นผู้หญิง คุณเป็นพุทธะไม่ได้ ถ้าคุณเป็นเกย์ คุณเป็นพุทธะไม่ได้ ถ้าคุณเป็นเลสเบี้ยน คุณเป็นพุทธะไม่ได้ ถ้าคุณเป็นสองเพศ คุณเป็นพุทธะไม่ได้ ไม่มีใครเป็นได้ ต่อเมื่อคุณจำไม่ได้แล้วว่า คุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หรือสองเพศ หรือเลสเบี้ยน หรือเกย์ หรือตุ๊ด หรือไม่เป็นตุ๊ด คุณเปลี่ยนตัวเอง แล้วคุณจึงจะ อยู่เหนือทั้งหมดนี้ได้ แล้วคุณจึงสามารถเป็นพุทธะได้ แต่ฉันกำลังคิด ในแบบทางโลก ผู้ชาย คุณไม่ต้องสวมใส่อะไรด้วยซ้ำ คุณโชว์ตามสบาย ในอินเดีย กูรูหลาย ๆ คน รวมทั้งกูรูที่รู้แจ้งบางคน ไม่สวมใส่อะไรมาก ฉันเห็นบางคน สวมใส่ไม่มาก หรืออาจจะแค่ผ้าเตี่ยว หรือบางอย่าง หรือแค่พันบางอย่างไว้ ช่างสะดวกสบาย แล้วฉันจะได้ปล่อยวางจาก รองเท้าซินเดอเรลลา เหล่านี้ และพวกจิวเวลรี่ และอะไรพวกนั้น แล้วมันก็จะ สะดวกสบายมาก ประหยัดเวลา ฉันคิดว่าพระศากยมุนีพุทธเจ้า ตรัสถูกต้องมาก ถ้าฉันเป็นผู้ชาย มันคงจะดีสำหรับฉัน ฉันสามารถ ใส่อะไรก็ได้ หรือไม่ใส่ก็ได้ ใช่ไหม? ชาวอินเดีย คุณรู้ใช่ไหม? กูรู พวกเขาไม่แคร์ ในอินเดีย พวกเขาไม่แคร์ และถ้าฉันดูไม่ดี... สมมุติถ้าฉันเป็นผู้ชาย และถ้าฉันดูไม่สวย อย่างที่ฉันเป็นตอนนี้ ฉันก็แค่ไว้หนวดเครา บนใบหน้า แล้วฉันก็จะดูดีขึ้น ดูมีสง่าราศีเหมือนกูรู

นั่นสำหรับการนินทา ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ส่วนที่ยากลำบากที่สุดคือ การเตรียมตัวให้พร้อม แต่เมื่อฉันอยู่ที่นี่แล้ว ฉันก็ตื่นตัว ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้น ตอนนี้รู้สึกตื่นมากขึ้นกว่าตอนที่ ฉันมาถึงแรก ๆ ฉันคิดว่า “ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะทำอะไร” ในสภาวะของฉันเมื่อเช้านี้ ฉันอยากจะปลุกตัวเองตื่น จริง ๆ นะ ฉันตั้งนาฬิกาปลุกแล้ว และทุกสิ่ง โอเค ฉันตื่น ฉันพยายามทำตัวปกติ ฉันปิ้งขนมปัง (วีแกน) ด้วยซ้ำ ฉันคิดว่า ฉันน่าจะต้องกินขนมปัง เพื่อให้กระเพาะสงบ ฉันรู้สึกไม่สบายหลายวันมานี้ แล้วฉันก็ปิ้งขนมปัง ฉันทำขนมปังไหม้ ฉันปิ้งแผ่นใหม่ ก็ไหม้อีก ฉันปิ้งอีกแผ่น แผ่นที่สาม ไหม้อีก ขนมปังสี่แผ่นไหม้ จนจำไม่ได้ ฉันบอกว่า “โอเค วันนี้ไม่ใช่วันขนมปังของฉัน” ฉันจึงคว้าอะไรก็ได้มากิน และดื่มน้ำ พยายามชงชา แต่แล้วฉันก็ลืม ฉันชงชา แต่ลืมกิน

มันเป็นสถานที่ใหม่ ฉันเพิ่งย้ายเข้า และมันก็ยุ่งเหยิงและเหนื่อยมาก และวุ่นวาย เพราะฉันยังไม่มีเวลา ที่จะจัดของของฉัน และฉันเกรงใจ ที่จะเรียกใครมาช่วย เพราะว่าบางครั้ง เมื่อฉันเรียกพวกเขามาช่วย ฉันทำเองดีกว่า หรือไม่ฉันก็ต้อง รับขยะจากพวกเขามาแทน และมันไม่ต้องจ่าย ดังนั้น ฉันรู้สึกเหมือน ถูกล้อมรอบไปด้วยวัตถุสิ่งของ ฉันปรารถนาว่าชะตาของฉัน เบากว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้สักหน่อย เหมือนการเป็นบาบา หรือบาบู หรืออะไรก็ตาม หรือมาตาจี ในอินเดีย แค่นั่งอยู่ตรงนั้น และกอดผู้คน หรือลูบศีรษะพวกเขา นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องทำ ชะตาของฉันในชาตินี้ โอ! มันซับซ้อน งานเยอะเกินไป ยากเกินไป เวลาน้อยเกินไป ซับซ้อนเกินไป ฉันเคยคิดว่าฉันออกบวช แล้วชีวิตของฉัน จะเหมือนเธอ หรือเธอ – ง่าย ๆ เสื้อผ้า 2 – 3 ชุด นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องทำ คุณไม่ต้องหวีผม เลยด้วยซ้ำ การมีผมก็เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง คุณต้องใส่น้ำมัน หรือบางอย่าง มิฉะนั้น มันจะยุ่งเหยิงแบบนั้น คุณต้องออกแบบจิวเวลรี่ ฉันนึกว่าฉันอยู่จุดนั้นแล้ว แต่ฉันยังไม่ถึงจุดนั้น บางครั้งก็ยากมาก สำหรับฉันที่จะอยู่บนดาวดวงนี้ ยากมาก ยากมากกว่าที่คุณคิด

ยังมีที่ว่างเหลืออีกเยอะ ขึ้นมาได้อีกหลายคน มานั่งที่นี่ โอเค? ชาวเอาหลัก (เวียดนาม) ขึ้นมานั่งตรงนี้ได้ ถ้าไม่มีที่ว่างเหลืออยู่ ก็ไม่ต้องขึ้นมาแล้ว ถ้าตั๋วขายหมด ก็หยุด ฉันบอกว่า “ไม่มีที่ว่างแล้ว ตั๋วขายหมดแล้ว” อะไรหรือ? ตั๋วขายหมดแล้ว คุณชอบ? ขายหมดทุกสัปดาห์ โชคดีที่ฉันไม่ใช่นักร้อง หรือนักเต้น หรืออะไร มิฉะนั้นศิลปินคนอื่น ๆ นักร้อง นักเต้น อาจจะต้อง หางานอื่นทำ คุณอยู่ที่นี่ได้นานเท่าไร ด้วยวีซ่าของคุณ? (เราต้องกลับวันพุธค่ะ) ฉันรู้ แต่ว่าวีซ่าของคุณ อยู่ได้นานแค่ไหน? (หนึ่งเดือนเท่านั้นค่ะ) หนึ่งเดือน! ก็ไม่เลว และคุณจะอนุญาตให้ฉัน อยู่ในอินเดียได้นานแค่ไหน ถ้าฉันไปที่นั่น? พาสปอร์ตอังกฤษ (ฉันคิดว่าหนึ่งเดือนค่ะ) หนึ่งเดือน? เท่ากัน เมื่อก่อนเราเคยได้ถึง 6 เดือน แล้วเรายังสามารถ ต่อได้ถึง 1 ปี นานมาแล้ว ตอนที่ฉัน เป็นโยคีเล็ก ๆ อยู่ไหนสักแห่ง แต่ตอนนี้มันยาก คุณต้องไปสถานทูต ขอวีซ่า เมื่อก่อนนั้นคุณ ทำวีซ่าเมื่อมาถึง หรือบางอย่าง ซึ่งปกติแล้วหลายคน สามารถอยู่ได้ถ้าพวกเขาต้องการ แต่สมัยนี้มันยาก นั่นเป็นเพราะว่า มีเหตุการณ์บางอย่าง เช่น ชาวต่างชาติเข้ามา และทำลายความมีน้ำใจ ของผู้คนชาวอินเดีย เนื่องจากชาวอินเดีย จิตใจเอื้อเฟื้อมาก แม้ว่าพวกเขามีไม่มาก พวกเขาก็ให้ทุกอย่าง ให้คุณทุกอย่าง ที่คุณต้องการ ดังนั้น รัฐบาล พยายามหยุดยั้ง การเอาเปรียบแบบนี้ ฉันไม่ได้ตำหนิพวกเขา ประเด็นก็คือ บางที ชาวต่างชาติอาจจะไม่ได้ฉวยโอกาส จากความใจดีของพวกเขา เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่เข้าใจ ในประเพณีของอินเดีย เพราะว่าพวกเขา ให้ และให้ และให้ และคิดว่ามันโอเค พวกเขาชอบให้ และพวกเขายังคงมีอีก นั่นแหละพวกเขาจึงสามารถให้ได้ แต่มันไม่จริง ไม่จริง ก็เหมือนที่บางครั้ง ฉันให้เรื่อย ๆ ผู้คนก็คิดว่าฉันมีเยอะ บางครั้งก็จริง บางครั้งไม่ใช่ ไม่เป็นไร ฉันชอบให้อยู่แล้ว เมื่อใดก็ตามที่จำเป็น ชาวอินเดีย พวกเขาชอบให้ จำเป็นหรือไม่ก็ตาม พวกเขาปฏิบัติต่อคุณเหมือนพระเจ้า มันเป็นประเพณีแบบนั้น และมันยังคงเป็นแบบนั้น มันยังคงเป็นแบบนั้นในอินเดีย ดังนั้นพี่น้องชาวอินเดีย หลายคนของพวกคุณ ชอบขอให้ฉันไปอินเดีย ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไร? อยู่หนึ่งเดือน แล้วบินออกไป และกลับมาใหม่? ไปมา ไปมา เรื่อย ๆ แบบนั้น? ( พวกเราไม่แน่ใจค่ะ อาจารย์ พวกเราไม่แน่ใจว่า ท่านอยู่ได้นานแค่ไหน กับพาสปอร์ตอังกฤษ บางทีท่านอาจจะอยู่ได้... ) อาจจะสามเดือน อย่างมาก ใช่ไหม? (อาจจะใช่)

ฉันจำได้นานมาแล้ว ฉันกลับไปที่... เพราะฉันได้รับเชิญไปที่ปูเน่ หรือบางแห่ง ฉันลืมแล้ว ฉันคิดว่าพวกเขาให้คุณสามเดือน แต่คุณต้องมีวีซ่า คุณต้องไป และขอวีซ่า ถึงแม้สามเดือนก็ไม่ใช่มาก ฉันแค่นั่งไม่... รู้สึกเหมือนว่า ฉันนั่งแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วมันก็สามเดือนแล้ว มันไม่นาน เวลาผ่านไปเร็วมาก เหมือนว่าทุกวันฉันรู้สึกเหมือนกับ ยังไม่ได้นอนเลย มันก็พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว และฉันก็ ทำอะไรยังไม่เสร็จเลย พระอาทิตย์ตกดินแล้ว! ยกตัวอย่าง แบบนั้น ในโลกนี้ เรายุ่งยาก กับเรื่องเวลา เวลา มันทำให้เราแก่ ทำให้เรากังวลเรื่องครบกำหนด เรื่องจ่ายบิล เรื่องไปทำงานตรงเวลา เรื่องไปโรงเรียนตรงเวลา ทุกอย่างคือเวลา เวลา เวลา มันกดดันมาก ๆ ฉันยกย่องคุณจริง ๆ ที่คุณสามารถทำงาน และยังมีครอบครัว และนั่งสมาธิ และมาที่นี่วันอาทิตย์ หรือ 2 - 3 สัปดาห์ ฉันไม่รู้ว่า คุณเป็นยอดมนุษย์หรืออะไร พวกคุณเก่งมากจริง ๆ ฉันภูมิใจพวกคุณ ฉันไม่ได้ภูมิใจตัวฉันเอง เพราะฉันก็มี ความเป็นศิลปินอยู่เหมือนกัน อยู่ในตัวของฉัน บางครั้งศิลปะทำให้ฉันดีขึ้น ฉันชอบออกไปข้างนอก ที่ไหนสักแห่ง แล้วถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ หรือบางอย่าง แทนที่จะมาที่นี่พบพวกคุณ แต่ว่าวันนี้ ฉันมาที่นี่ ดี ดี

ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่ใช่คนที่ดูแลสุนัขได้ดีนัก เมื่อก่อนฉันเคยมีพวกเขา อยู่รายรอบฉัน แต่ทุกวันนี้ฉันได้แต่ ดูแลคราวละสองตัว อย่างมาก สองหรือสามตัว ถ้ามากกว่านั้นฉันจะเหนื่อยง่าย หรือยุ่งยาก คิ้วขมวด แก่เร็วขึ้นกับเด็ก ๆ ฉันต้องปล่อยให้พวกเขาผลัดกัน เช่นกลางคืน หน้าที่ใคร และตอนเช้า หน้าที่ใคร ตอนกลางวัน หน้าที่ใคร แบบนั้น แล้วพวกเขาก็หมุนเวียนกัน ไม่เลวนัก ดีกว่าไม่มีใคร ฉันคิดอย่างนั้น ฉันทำเท่าที่ทำได้ แต่ฉันทำได้แค่นั้น

มีขำขันเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับร้านอาหารแห่งหนึ่ง ข้างนอก พวกเขาเขียนว่า “กินทั้งหมดที่คุณกินได้ จ่าย 5 $” รู้ไหม มีหลายแห่ง ในอเมริกาหรือยุโรป ฉันไม่แน่ใจว่ายุโรปจะมีมั้ย แต่อเมริกามีเยอะ... ตอนที่ฉันอยู่ที่นั่น ฉันเห็นหลายแห่ง และมีขำขันเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับร้านอาหาร มันเขียนไว้ข้างนอกว่า “กินทั้งหมดที่คุณกินได้ จ่าย 5 $” แล้วมีชายคนหนึ่ง เข้าไปกิน กิน กิน แล้วเขามาตักอีก เจ้าของร้านออกมา ห้ามเขา และบอกว่า “ไม่ได้! ตักอีกไม่ได้!” เขาถามว่า “แต่คุณเขียนไว้ข้างนอก บอกว่า ‘กินทั้งหมดที่คุณกินได้ จ่าย 5 $”’ เจ้าของร้านพูดว่า “แค่นั้นคือทั้งหมดที่คุณกินได้” “กินเท่าที่คุณกินได้ นั่นคือทั้งหมดที่คุณกินได้”

โอเค เรามาดูต่อ เรื่องพระมหาวีระ ครั้งที่แล้วได้ครึ่งเรื่อง “พ่อค้านั้นรู้สึกสะเทือนใจ” ที่เห็นชะตากรรมของเธอ และเห็นว่าเธอ เป็นหญิงจิตใจสูงที่ใฝ่ธรรมะ เธอไม่เหมือนคนชั้นต่ำ หรือทำตัวไม่เหมาะสม หรืออะไรแบบนั้น ดังนั้นเขาพูดว่า ‘“เด็กเอ๋ย ฉันคือพ่อค้าธานาวาห์ ฉันเป็นอุบาสกของ ท่านนิรกรานธ์ สมณะ และอาศัยอยู่ในเมืองนี้ ฉันเห็นความลำบากของเธอ ฉันรู้สึกเศร้าใจ ถ้าเธอไม่ปรารถนาจะเป็น นางคณิกา ฉันก็จะไม่อนุญาตให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ฉันจะซื้อตัวเธอ โดยจ่ายทองหมื่นชั่ง เธอจะไปกับฉันไหม? เธอจะไปอยู่กับฉันไหม ในฐานะลูกสาว?”’ ดังนั้น แน่นอน “เจ้าหญิงกำพร้า ถูกขายไปเป็นทาส ไปถึงบ้านของ พ่อค้าธานาวาห์ แต่ว่าภรรยาของเขา” อีกแล้ว อีกคนหนึ่ง มูลา ภรรยาของเขา “มูลา เริ่มสงสัยในทันทีที่เธอ เห็นเด็กสาวสวยงามหมดจด เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ” ฉันสัญญากับตัวเอง จะมองดูฝั่งเด็กผู้ชาย และวันนี้ฉันจะพยายาม ฉันมักจะมองฝั่งนี้เสมอ ไม่ยุติธรรม “ทันทีที่มูลา” ภรรยา “สังเกตดู วสุมาติ เธอเห็นคู่แข่งในการ เป็นคนโปรดของสามีเธอ ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้นแม้กับ ชายผู้ซื่อสัตย์ยุติธรรมของเธอ” ปกติแล้วเธอเชื่อใจเขา ว่าเป็นผู้ชายที่ยุติธรรม สามีที่ซื่อสัตย์ สามีที่ภักดี แต่ตอนนี้เธอ เห็นเด็กสาวสวยงาม เข้ามาในบ้านของเธอ เธอสงสัยแม้แต่เขา เธอคิดว่า อาจจะความงามของเธอคนนั้น ทำให้สามีเธอลุ่มหลง มันเป็นไปได้ มันเป็นไปได้ เพราะว่าผู้ชายชอบสาวงาม

ฉันก็ชอบสาวงามเหมือนกัน ฉันไม่ใช่ผู้ชาย แต่ฉันชอบทุกสิ่งที่สวยงาม ฉันออกไปข้างนอก และเห็นดอกไม้ ฉันพูดว่า “โอ พวกเธอสวยงามมาก ฉันจะจับภาพเธอไว้ในกล้องนี้ และเธอจะเป็นอมตะ เธอชอบหรือเปล่า?” ทั้งหมดตอบว่า “ใช่ ใช่ ใช่!” และวันนี้ พวกนกก็มา และร้องเพลง ที่ไพเราะหลายเพลง ฉันไม่เคยเห็นเลย ตั้งแต่มาที่นี่ เห็นแค่วันนี้ พวกนกร้องเพลง ดังมาก ๆ และมีความสุขมาก ๆ ฉันคิดว่าพวกเขาคงจะ อยากจะกินอะไร ฉันจึงวางขนมปัง(วีแกน) ให้ข้างนอก พวกเขาก็ไม่กิน เอาแต่ร้องเพลง ฉันไม่เคยเห็นแม้แต่ในซีหู นกจำนวนมาก มารวมกัน กิ่งไม้เล็ก ๆ ก็มีนกเกาะหลายตัว และพวกเขาร้องเพลง ร้องเพลง อย่างมีความสุขมาก วันนี้ นั่นทำให้ฉันตื่นขึ้นมาอีกหน่อย ดังนั้นฉันขอบคุณพวกเขา

รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์